Liquidity Provider
Last updated
Was this helpful?
Last updated
Was this helpful?
Liquidity providers (ผู้จัดหาสภาพคล่อง) ใส่สินทรัพย์เข้าไปใน liquidity pool ซึ่งเป็นกองทุน market-making สำหรับนักเทรด การเพิ่มสภาพคล่องนั้นเปลี่ยบเสมือนการลงทุนในกองทุนดัชนี (index fund) ซึ่งรวมไปด้วยสินทรัพย์ชั้นนำ (BTCB, BNB, ETH) และเหรียญ stablecoins (USDC, USDT) และได้รับผลตอบแทนจากหลากหลายแหล่ง ข้างต้น
ยิ่งไปกว่าการได้รับผลตอบแทนเป็นโทเค็นจากการช่วยบูตแสตรปพูลแล้ว liquidity providers ยังได้รับผลตอบแทนจากแหล่งต่างๆเหล่านี้:
ค่าธรรมเนียมการเปิด/ปิด: จ่ายทุกครั้งที่นักเทรดเปิด, ปิด, หรือปรับ perp positions ของพวกเขา
ค่าธรรมเนียมกู้ยืม: เพิ่มขึ้นทุกชั่วโมงจาก positions ขึ้นอยู่กับอัตราการใช้งานของพูล (คล้าย lending pools ของ Alpaca)
ค่าธรรมเนียมการแลกเปลี่ยน: จ่ายทุกครั้งที่ผู้ใช้งานแลกเปลี่ยนบนกระดานเทรดของเรา
กำไรจากการเคาน์เตอร์เทรด (Counter-exposure profits): Liquidity providers ในพูลนั้นเป็น market makers ซึ่งจะมีความเสี่ยงทางราคาตรงข้ามกับ perp position ทั้งหมด ซึ่งอาจเป็นกำไรเพิ่มเติม จากที่เห็นได้จากในอดีต market makers ที่จัดหาสภาพคล่องให้นักเทรดนั้นได้รับกำไรเรื่อยๆจากการเคาน์เตอร์เทรดโดยรวมในหลายตลาดในระยะยาวรวมไปถึงกระดานเทรด perp ด้วย ดังนั้นการเคาน์เตอร์เทรดถือเป็นกำไรเพิ่มเติมจากความเสี่ยงด้านราคาของกองทุนดัชนี
ค่าธรรมเนียมจาก Flash loan: สินทรัพย์ใน liquidity pool สามารถนำไปใช้เพื่อการ flash loans ได้ ซึ่งจะทำให้ได้มาซึ่งแหล่งรายได้เพิ่มเติมให้แก่ LPs
1. การป้องกันบอท MEV/front-running ราคา oracle
ธุรกรรมอะไรก็ตามที่ใช้ราคา oracle มักจะมีความเสี่ยงที่จะถูกบอท MEV front-running ธุรกรรม ดังนั้น front-running จึงทำให้เกิดความเสียหายบนกระดานแลกเปลี่ยนบนบล็อคเชนต่างๆ อย่างไรก็ตามในส่วนของ Perpetual Futures Exchange ของ Alpaca นั้นเราได้มีการออกแบบเพื่อป้องกันกรณีนี้
เราใช้ราคาอ้างอิงจาก Pyth Oracle นั่นหมายความว่าราคาที่ผู้ใช้งานเห็นบน UI แล้วการคำนวณต่างๆจะถูกดึงจาก Pyth อย่างไรก็ตามเมื่อผู้ใช้งานพยายามที่จะทำธุรกรรมที่ต้องใช้ราคา Oracle (เปิด, ปิด, ฝาก LP ฯลฯ) เราจะอัพเดทราคาจากภายในตลอดเวลาเมื่อเกิดธุรกรรมเพื่อเป็นการป้องกัน front-running ราคาที่เราอัพเดทภายในนั้นจะมาจากกระดานแลกเปลี่ยนขนาดใหญ่หลายแห่ง เช่น Binance, Coinbase ฯลฯ
เราได้ตั้งค่าส่วนต่างเล็กน้อย (เช่น 0.05%) ระหว่างฟีดราคาของเราและ Pyth ซึ่งธุรกรรมจะไม่ผ่านถ้าฟีดราคาของเราอยู่เกินระยะที่เราตั้งค่าไว้
วิธีการนี้จะป้องกันการโจมตี LP ได้ซึ่งจะคล้ายกับการทำงาน reinvest บน LYF ของ Alpaca เวลามีการเปิด position ใหม่ขึ้นมาในพูลเพื่อที่จะป้องกันการโจมตีสำหรับคนทำฟาร์ม
2. ผลตอบแทนเพิ่มเติมจาก lending vaults ของ Alpaca
ส่วนนึงของสินทรัพย์ที่ไม่ถูกใช้งานในพูล LP จะถูกนำไปปล่อยใน lending vaults ของ Alpaca เพื่อให้มีผลตอบแทนที่มากขึ้นสำหรับ LPs ในขณะเดียวกันก็ยังเพิ่มสินทรัพย์สำหรับการกู้ไปใช้ในการ LYF อีกด้วย
3. ปกป้องจากความเสี่ยงด้านราคาด้านเดียว (one-sided exposure)
ในช่วงที่ตลาดมีความโน้มเอียงไปข้างนึงสูงอาจทำให้มีความต้องการที่จะเปิด long หรือ short ข้างนึงเยอะเกินไปทำให้ LPs มีความเสี่ยงด้านราคาในฝั่งนึงอย่างมาก
ถึงแม้ว่าอัตราดอกเบี้ยที่สูงจะลดแรงกระตุ้นในการเปิด positions ใหม่และกระตุ้นให้ positions ที่เปิดอยู่ปิด อัตราดอกเบี้ยนั้นก็ยังไม่สามารถรับประกันได้ว่ามันจะชดเชยความเบ้ไปข้างนึงของ open interest ได้ ดังนั้นเพื่อบรรเทาปัญหานี้ Perpetual Futures Exchange ของเราจึงมีกลไก Funding Rate เพิ่มเข้ามา
Funding Rate บน CEXs นั้นขึ้นอยู่กับความต่างระหว่างราคาของ Perp และ ราคาสปอตสำหรับสินทรัพย์นั้นๆ Funding Rate บนกระดานแลกเปลี่ยนของเรานั้นจะขึ้นอยู่กับความต่างระหว่าง OI ของ long และ short นี่หมายความว่านักเทรดจะได้รับผลตอบแทนจาก Funding Rate ถ้าพวกเขาเปิด position ในฝั่งที่เบ้ long/short อยู่ ซึ่งเป้าหมายของกลไกนี้คือการกระตุ้นให้ positions ที่เปิดใหม่นั้นมีความเสี่ยงด้านราคาตรงข้ามกับที่เป็นอยู่เพื่อให้ LP มีความเสี่ยงด้านราคาเข้าใกล้ 0
ค่าธรรมเนียมสำหรับการฝากและถอนนั้นมีอยู่สองส่วน
โดยที่ FixedFee = 0.3%
และ TaxFee จะอยู่ระหว่าง -0.3% — 0.5%
นี่หมายความว่า Total Fees จะอยู่ระหว่าง 0% — 0.8%
TaxFee จะถูกคำนวนจากการฝาก/ถอนนั้นว่าจะทำให้สัดส่วนของ pool เข้าใกล้/ออกห่างสัดส่วนเป้าหมายแค่ไหน สำหรับวิธีการคำนวนแบบละเอียดว่า tax คำนวนยังไง โปรดตรวจสอบของเรา