❓คำถามที่พบบ่อย
คุณสามารถหาคำถามที่พบบ่อยจำแนกตามผลิตภัณฑ์ได้ตามนี้
คำถามทั่วไป
Alpaca Finance คืออะไร?
Alpaca Finance เป็นโปรโทคอลการกู้ยืมที่ใหญ่ที่สุดบน BNB Chain ที่อนุญาตให้ทำการยีลด์ฟาร์มโดยใช้เลเวอเรจ ซึ่งโปรโทคอลจะช่วยให้ผู้ให้กู้ได้รับผลตอบแทนที่มั่นคงและมีเสถียรภาพ และให้เงินแก่ผู้กู้สำหรับการทำยีลด์ฟาร์มเพื่อที่จะทำให้ผลกำไรที่ได้รับสูงขึ้น
ในฐานะส่วนหนึ่งของระบบนิเวศน์ DeFi อัลปาก้าจะช่วยเพิ่มสภาพคล่องให้กับกระดานเทรดที่เราเชื่อมต่อ และเพิ่มการใช้งานเงินทุนให้มีประสิทธิภาพ โดยการเชื่อมกันระหว่างผู้ให้กู้กับผู้กู้ LP และระบบสนับสนุนนี้ทำให้ Alpaca เป็นส่วนหนึ่งของรากฐานของ DeFi และสร้างความได้เปรียบทางการเงินให้กับทุกคน และกับอัลปาก้าทุกตัว...
นอกจากนี้ Alpaca ยังเป็นสัตว์ที่มีคุณธรรม ด้วยเหตุนี้เราจึงเป็นโปรเจคที่เปิดตัวแบบยุติธรรมโดยไม่มีการขายล่วงหน้า ไม่มีนักลงทุน และไม่มีการออกเหรียญมาล่วงหน้า ดังนั้นเราจึงกล่าวได้ว่าตั้งแต่เริ่มต้น โปรเจคของเราป็นผลิตภัณฑ์ที่สร้างขึ้นโดยผู้คน เพื่อผู้คน หรือที่เราชอบพูดว่า: โดย Alpacas เพื่อ Alpacas
Yield farming คืออะไร?
Yield Farming เป็นแนวคิด DeFi ที่เป็นนวัตกรรมใหม่ที่ผู้ใช้สามารถให้ยืมสินทรัพย์ crypto ของตน หรือใช้สภาพคล่องเพื่อรับผลตอบแทน
ผลตอบแทนของฉันมาจากไหน?
นั่นเป็นคำถามที่ยอดเยี่ยม! ที่จริงแล้ว คุณควรพยายามทำความเข้าใจว่าผลตอบแทนมาจากไหนสำหรับแต่ละโครงการ DeFi
บน Alpaca Finance แหล่งที่มาของผลตอบแทนของคุณจะขึ้นอยู่กับว่าคุณเข้าร่วมโปรโตคอลอย่างไร:
ในฐานะผู้ให้กู้ ผลตอบแทนของคุณมาจาก:
ดอกเบี้ยจ่ายโดยผู้กู้เพื่อเปิด position การทำฟาร์มแบบมีเลเวอเรจ (อัตราดอกเบี้ยขึ้นอยู่กับอัตราการใช้ประโยชน์ของ pool หรือ pool utilizaiton)
รางวัลจูงใจที่จ่ายเป็นโทเค็นของแพลตฟอร์มพันธมิตร (ใน featured pool)
ในฐานะ yield farmer ผลตอบแทนของคุณมาจาก:
ให้ผลตอบแทนจูงใจในการทำฟาร์มจาก AMM (หากมี) - เช่น โทเค็น CAKE จาก PCS
ค่าธรรมเนียมการซื้อขายพื้นฐานของพูล - เช่น ค่าธรรมเนียมการซื้อขายจากพูล PancakeSwap
รางวัลจูงใจที่จ่ายเป็นโทเค็นของแพลตฟอร์มพันธมิตร (ใน featured pool)
คุณจะมีส่วนร่วมใน Alpaca Finance ได้อย่างไร
ในฐานะผู้ใช้งานคุณสามารถเข้ามีส่วนร่วมกับ Alpaca Finance ได้สามวิธี:
💵 ผู้ปล่อยกู้: คุณสามารถรับผลตอบแทนที่ปลอดภัยและมั่นคงจากสินทรัพย์ของคุณโดยการฝากไว้กับเรา จากนั้นเราจะนำทรัพย์สินเหล่านี้ไปปล่อยกู้ให้กับยีลด์ ฟาร์มเมอร์เพื่อให้พวกเขาสามารถนำสินทรัพย์ไปใช้สำหรับการทำเลเวอเรจและรับผลตอบแทนจากการฟาร์มที่สูงขึ้น
👨🌾 คนทำฟาร์ม (Yield Farmer): คุณสามารถยืมทรัพย์สินจากเราเพื่อทำให้คุณสามารถทำยีลด์ฟาร์มที่มี leverage ได้โดยการเพิ่มเลเวอเรจจะเพิ่ม APR ในการทำฟาร์มของคุณได้มากถึง 6 เท่า (ลบด้วยดอกเบี้ยเงินกู้) แน่นอนว่าผลตอบแทนที่สูงขึ้นเหล่านี้มาพร้อมกับความเสี่ยงที่มีมากกว่าการปล่อยกู้ เช่น liquidation, Impermanent loss ฯลฯ
🚨 Liquidator: ตรวจสอบ position ของ leverage farming ที่มี safety buffer เป็น 0 (คือตอนที่สินทรัพย์ค้ำประกันมีสัดส่วนน้อยเกินไป ทำให้ใกล้เป็นหนี้เสีย) และทำการบังคับชำระหนี้ (ใช้ bot เท่านั้น)
การใช้ Alpaca Finance ปลอดภัยหรือไม่?
ถ้ากล่าวสรุปคือปลอดภัย Alpaca เป็นหนึ่งในโครงการที่ปลอดภัยที่สุดใน BNB Chain เนื่องจากกระบวนการรักษาความปลอดภัยแบบหลายชั้นของเรา ซึ่งคุณสามารถอ่านได้ตามด้านล่าง:
เรามีการ audit ทั้งหมด 23 audits จากบริษัทชั้นน้ำอย่าง PeckShield, Certik, Inspex, และ SlowMist
ในเดือนมิถุนายน 2021 โปรเจค Alpaca ได้รับการประเมินความปลอดภัยและได้รับคะแนนความปลอดภัยสูงสุดจาก DeFi Safety ซึ่งโปรโมทโดย BNB Chain และได้คะแนนมากเป็นอันดับ 3 จากการประเมินคะแนนความปลอดภัยของ Certik
ขั้นแรก เราได้ทำให้โทเค็นของเราได้รับการป้องกันจากการเทขาย โทเค็น ALPACA ของเรามีการเปิดตัวอย่างยุติธรรม โดย 87% ของอุปทานทั้งหมดจะถูกส่งไปยังผู้เข้าร่วมแพลตฟอร์ม ทีมได้รับโทเค็นน้อยกว่า 9% เท่านั้นและจะได้รับครบหลังจากเวลากว่า 2 ปี นอกจากนี้เรายังไม่มีการขายล่วงหน้า ไม่มีการขุดล่วงหน้า และไม่มีนักลงทุน ดังนั้นจึงไม่มีใครสามารถเทขาย
ในแง่ของความปลอดภัย โค้ดของเราเป็นโอเพ่นซอร์ส โดยทุกบรรทัดได้รับการตรวจสอบโดย developer อิสระหลายร้อยราย นอกจากนี้เรายังมีโปรแกรม bug bounty เพื่อมอบรางวัลให้พวกเขาหากพวกเขาพบเห็นปัญหาของโค้ดเราแม้เพียงเล็กน้อย เราขอเชิญคุณมาดูโค้ดของเราด้วยตัวเองที่นี่
จากนั้น นอกเหนือจากการตรวจสอบโค้ดอย่างละเอียดทั้งภายในและภายนอกแล้ว ยังมีการป้องกันในตัวอีกด้วย ตัวอย่างเช่น สัญญาทั้งหมดที่เราปรับใช้นั้นเป็นสัญญา Timelock ดังนั้น การเปลี่ยนแปลงใดๆ ที่ทำโดยนักพัฒนาของเราจะมีความล่าช้า 24 ชั่วโมงก่อนที่จะมีผล นั่นหมายความว่าผู้ใช้จะมีเวลาเหลือเฟือในการถอนเงินและออกจากระบบอย่างปลอดภัยในกรณีที่มีการอัปเดตรหัสที่น่าสงสัย ยิ่งไปกว่านั้นเราได้เพิ่มความปลอดภัยอีกชั้นนึงโดยที่การเปลี่ยนแปลงใดๆที่จะขึ้นคิวในสัญญา Timelock จะเกิดขึ้นเมื่อได้รับการอนุมัติจากแอดเดรส multi-sig ด้วยผู้ใช้หลายหมื่นคน คุณสามารถเชื่อได้ว่าการเปลี่ยนแปลงเล็กๆ น้อยๆ ทั้งหมดอยู่ภายใต้การตรวจสอบอย่างต่อเนื่องจากผู้เข้าร่วมจำนวนมาก บางครั้งมันเป็นงานที่ยากลำบากในการจัดการกับคำถามทั้งหมดของพวกเขา แต่นี่ก็เป็นงานสุจริตของเรา 👨🌾
และคุณไม่ต้องกังวลจากการโดน flash loan ดังนั้นคุณปลอดภัยจากการโจมตีต่างๆ
นอกจากกรณีปั่นราคาและการโดนบังคับชำระหนี้ฉับพลัน (flash liquidation) Alpaca เชื่อมต่อกับระบบข้อมูล feed ราคา Chainlink และมีระบบภายใน Alpaca Guard เพื่อป้องกันเคสเหล่านั้น
สุดท้ายนี้ เราพยายามไม่เพียงแต่รักษาความปลอดภัยของโปรโทคอลของเราเอง แต่ยังรวมถึงระบบนิเวศทั้งหมดด้วย นั่นเป็นเหตุผลที่เราทำงานกับโครงการที่ตรงตามมาตรฐานความปลอดภัยระดับสูงของเราเท่านั้น ทุกโครงการที่เราทำงานด้วยต้องผ่าน Security Scorecard ของเรา ซึ่งเป็นประเภทการตรวจสอบเชิงคุณภาพที่ช่วยเสริมการตรวจสอบโค้ด คุณสามารถดู Security Scorecard สำหรับโครงการพันธมิตรได้ที่นี่
สำหรับผู้ที่ต้องการการประกันความเสี่ยง เรายังมีการเชื่อมต่อกับ Nexus Mutual Coverage และ InsurAce เพื่อเป็นทางเลือกให้ผู้ใช้ของเราสามารถซื้อความคุ้มครองได้ ซึ่งทำให้ผู้ใช้งานสามารถถอนเงินลงทุนคืนในกรณีที่เกิดความเสียหาย
เราขอทิ้งท้ายว่าถึงแม้เราจะทำหลายๆอย่างเพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้กับแพลตฟอร์ม ผู้ใช้ก็ยังควรที่จะศึกษาหาความรู้ด้วยตนเอง สิ่งสำคัญคือต้องตระหนักถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการเข้าร่วมในโครงการ DeFi ซึ่งคุณสามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
Alpaca เสี่ยงการโดนโจมตีโดย flash loan ไหม
ไม่โดน Alpaca เป็นระบบแยกที่ไม่อนุญาตให้ flash loan ทำงานบนโปรโตคอล ดังนั้นการโจมตีด้วย flash loan จึงเป็นไปไม่ได้
ใครคือทีมงานของ Alpaca
Binance เคยเขียนบทความเกี่ยวกับเราและทีมงานของเรา อ่านได้ที่นี่
ติดต่อทีมงานได้อย่างไร?
contact@alpacafinance.org หรือ DM แอดมินบน Telegram or Discord Discord: https://discord.com/invite/jkC2j9ZVDf
Telegram: https://t.me/alpacafinance
คอนแทรคของเรามีการ audit ไหม
ตอนนี้เรามี 23 audits ณ วันที่ 1 ตุลาคม 2023 ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงที่สุดใน BNB Chain และสูงกว่าหลายโปรเจคใน ETH
โทเค็น ALPACA คืออะไรและทำไมฉันจึงควรถือไว้?
โทเค็น ALPACA เป็นโทเค็นกลางสำหรับควบคุมและเก็บเกี่ยวมูลค่าของแพลตฟอร์ม Alpaca Finance ประโยชน์ของการถือเหรียญ ALPACA มีดังต่อไปนี้:
การได้มาซึ่งผลประโยชน์ทางเศรษฐศาสตร์ของแพลตฟอร์ม
(การแบ่ง Performance fee และ buyback & burn)
เราจะให้ชุมชนเลือกว่าอะไรจะเป็นแรงจูงใจทางเศรษฐศาสตร์ที่จะเพิ่มมูลค่าของโทเค็น ALPACA ยกตัวอย่างเช่น อาจจะเหมือน Sushiswap ที่ x% ของค่าธรรมเนียมจะนำไป buyback และ burn โทเค็น ซึ่งตอนนี้มีกลไกหลายอย่างสำหรับการแบ่ง performance fee และการทำให้ ALPACA มีความฝืดค่าแล้ว
10% ของ 19% ของ performance fees สำหรับ position การ yield farming บน vault สำหรับสินทรัพย์ CAKE เดี่ยวๆจะถูกแบ่งเป็น APR ของโปรโตคอลให้กับผู้ฝากเหรียญบน ALPACA governance vault
4% ของ 5% ของรางวัลการบังคับชำระหนี้ที่ bot ได้รับจะนำไป buyback และ burn โทเค็น ALPACA
6% ของ 19% ของดอกเบี้ยกู้ยืมที่ผู้ปล่อยกู้ได้รับบน AF1.0 จะถูกไป buyback โทเค็น ALPACA และแจกจ่ายเป็นรายได้ให้ stakers ใน Governance Vault (เป็น APR ของโปรโตคอล)
4% ของ 19% ของดอกเบี้ยกู้ยืมที่ผู้ปล่อยกู้ได้รับบน AF1.0 จะถูกนำไป buyback และ burn โทเค็น ALPACA
รายได้จากกิจกรรมการสร้างรายได้ต่างๆจะนำไป buyback และ burn ALPACA เช่น 20% ของรายได้จากการขาย Alpies ที่มีมูลค่ารวม $1.25 ล้าน
2.5% ของ royalty fees เวลา Alpie NFT ถูกขายบนตลาดมือสองจะนำไป buyback และ burn โทเค็น ALPACA
5% ของ 9% ของ Auto-Farming Performance Fee ซึ่งมาจากรางวัลที่ได้ตอนฟาร์มสินทรัพย์ค้ำประกันใน position ของ AUSD บน Alpaca Staking (และอาจจะบนโปรโคตอลนอกในอนาคต) จะนำไป buyback และ burn
1% ของ 2% ของ Stability Fee ที่ต้องจ่ายสำหรับ AUSD debt position จะถูกนำไป buyback และ burn
5% ของ 9% ของ Farming Performance Fee ซึ่งมาจากรางวัลการทำ yield farming จะถูกนำไป buyback โทเค็น ALPACA และแจกจ่ายเป็นการแบ่ง performance fee ให้ stakers บน Governance Vault (เป็น APR ของโปรโตคอล)
8% ของ 15% ของ AV Farming Performance Fee ซึ่งมาจากรางวัลการทำ yield farming บน AV จะถูกนำไป buyback โทเค็น ALPACA และแจกจ่ายเป็นการแบ่ง performance fee ให้ stakers บน Governance Vault (เป็น APR ของโปรโตคอล)
1% ของ 2% ของ AV Management Fee ซึ่งเป็นค่าธรรมเนียมการจัดการบน Automated Vaults จะนำไป buyback และ burn โทเค็น ALPACA รายสัปดาห์
.1% of .2% ของ AV Withdrawal Fee ซึ่งเป็นค่าธรรมเนียมเมื่อถอนเงินออกจาก Automated Vault จะนำไป buyback และ burn โทเค็น ALPACA รายสัปดาห์
10% ของ 30% ของ Perpetual Futures Exchange Fee จะถูกไป buyback โทเค็น ALPACA และแจกจ่ายเป็นรายได้ให้ stakers ใน Governance Vault (เป็น APR ของโปรโตคอล)
6% ของ 30% ของ Perpetual Futures Exchange Fee จะถูกนำไป buyback และ burn โทเค็น ALPACA รายสัปดาห์
6% ของ 19% ของดอกเบี้ยกู้ยืมที่ผู้ปล่อยกู้ได้รับบน AF2.0 จะถูกนำไป buyback โทเค็น ALPACA และแจกจ่ายเป็นรายได้ให้ stakers ใน Governance Vault (เป็น APR ของโปรโตคอล)
4% ของ 19% ของดอกเบี้ยกู้ยืมที่ผู้ปล่อยกู้ได้รับบน AF2.0 จะถูกนำไป buyback และ burn โทเค็น ALPACA รายสัปดาห์
ด้วยการเพิ่มไกลไกต่างๆข้างต้นนี้ รางวัลส่วนใหญ่ของโปรโตคอล ALPACA จะถูกนำไปแบ่งให้ผู้ถือโทเค็น ALPACA ทั้งทางตรงและทางอ้อม คุณสามารถตรวจการแจกจ่ายรายได้ของ Alpaca Finance ได้ที่นี่
ทำไมเราถึงเลือกที่จะเผาโทเค็นในบางกรณีแทนที่จะแจกจ่ายเป็นค่าธรรมเนียม?
เพราะว่าการเผาก็ถือเป็นวิธีการแจกจ่ายค่าธรรมเนียม ซึ่งมีประสิทธิภาพในการเพิ่มมูลค่าโทเค็น การเผาเหรียญจะทำให้อุปทานลดลงซึ่งทำให้มูลค่าของโทเค็นที่เหลือเพิ่ม แทนที่จะจ่าย yield ให้ผู้ใช้งานซึ่งมักจะเทขายเหรียญในตลาด การเผาเหรียญซึ่งส่งผลกับกับราคาเหรียญจะลดแรงขายเพราะว่าผู้ใช้งานจำเป็นต้องขายส่วนของเงินทุน วิธีนี้เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพทั้งกับการให้รางวัลผู้ถือเหรียญระยะยาวและเพิ่มจำนวนผู้ถือเหรียญระยะยาว
การเพิ่มภาวะเงินฝืดให้กับเหรียญ
โทเค็น ALPACA เป็นเหรียญฝืดค่าระยะยาว การปล่อยเหรียญมีจำนวนจำกัดและจะลดลงเรื่อยๆ ในขณะที่การเผาเหรียญนั้นถาวรและจะเพิ่มจำนวนการเผาขึ้นเรื่อยๆ เราก็เผาเหรียญบางส่วนด้วย protocol fees ส่วนใหญ่จะถูกนำไปเผาโทเค็น: 80% ของ liquidation fees ทั้งหมดและ 10% ของดอกเบี้ยที่ผู้ปล่อยกู้ได้รับ ดังนั้นขณะที่ Alpaca Finance เติมโต ALPACA จะถูกเผาเรื่อยๆ ซึ่งนำไปสู่มูลค่าที่สูงขึ้นเรื่อยๆของโทเค็น ALPACA
ธรรมาภิบาล (Governance)
เมื่อเราใช้มีการใช้ธรรมาภิบาลหรือ governance (กำหนดไว้สำหรับไตรมาสที่ 3 บนแผนงาน) การถือครองเหรียญ ALPACA จะทำให้คุณมีอำนาจในการตัดสินใจและช่วยกำหนดทิศทางในอนาคตของโปรโทคอล เพื่อให้เข้าใจถึงความสำคัญของ governance ของ Alpaca คุณจะต้องตระหนักถึงสิ่งหนึ่ง - Alpaca Finance ไม่เหมือนกับโครงการ BNB Chain ส่วนใหญ่ในปัจจุบัน
Alpaca Finance ไม่ใช่ฟาร์มที่ copy-paste มาหรือ AMM ที่มีปริมาณการเทรดต่ำที่ให้เฉพาะโทเค็นที่มีแต่จะเฟ้อขึ้นเรื่อยๆ ไม่ได้เพิ่มมูลค่าที่แท้จริงให้กับระบบนิเวศ BNB Chain DeFi แต่ Alpaca Finance ได้กลายเป็นชั้นพื้นฐานของ BNB Chain อย่างรวดเร็ว เพราะมันมอบคุณค่าที่แท้จริงในฐานะแพลตฟอร์มการให้ยืมที่มีความได้เปรียบเชิงกลยุทธ์ที่ไม่เหมือนใครด้วยการให้ใช้เลเวอเรจ ด้วยวิธีนี้ เราสามารถเสนอ APY ที่มีเสถียรภาพมากขึ้นให้กับผู้ให้กู้, APY ที่สูงขึ้นเพื่อให้กับ Yield Farmer และสภาพคล่องเพิ่มเติมให้กับ AMM และโครงการที่เป็นพันธมิตรที่เราสร้าง pool ไว้ให้ นี่คือกรเป็น enabler ทวีคูณสำหรับระบบนิเวศ DeFi โดยรวม
นอกจากนี้ มีเพียงไม่กี่แพลตฟอร์มเท่านั้นที่สามารถอนุญาติให้ใช้เลเวอเรจได้เลยเนื่องจากมันมีความซับซ้อนทางเทคนิคสูง ในขณะเดียวกัน เราเป็นแพลตฟอร์มชั้นนำที่ให้บริการนี้บน BNB Chain ในทุกตัวชี้วัด (TVL ฐานผู้ใช้ ปริมาณ ฯลฯ) โดยมีความยืดหยุ่นสูงสุดในการปรับเปลี่ยน ในขณะที่ยังมี UI ที่ใช้งานง่ายที่สุด กล่าวอีกนัยหนึ่ง เรานำหน้าในทุกด้าน และตลาดยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น
เหตุใดการเข้าใจสิ่งนี้จึงมีความสำคัญเพื่อที่จะเข้าใจถึงความสำคัญของ governance? มูลค่าของสิทธิในการปกครองนั้นเท่ากับมูลค่าของสิ่งที่คุณปกครองอยู่ ดังนั้น หากคุณเชื่อในศักยภาพในระยะยาวของ Alpaca Finance คุณควรเข้าใจด้วยว่าคุณค่าของอำนาจ governance ของโทเค็น ALPACA ของคุณนั้นมีมูลค่าเช่นเดียวกัน
เหรียญ ALPACA เปรียบเสมือนใบลงคะแนนเพื่อควบคุมโปรโตคอลนี้ที่เราสร้างขึ้น และมูลค่าการกำกับดูแลจะคงอยู่ถาวรเนื่องจากโทเค็นของเรามีฮาร์ดแคป นั่นหมายความว่า 1 โทเค็นมีค่าเท่ากับ 1 โหวตเสมอ นั่นเป็นความจริงในขณะนี้ และเป็นความจริง 1 ปีต่อจากนี้หรือ 10 ปีต่อจากนี้ และในขณะที่โปรโตคอลยังคงเติบโต อำนาจการลงคะแนนนั้นก็จะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นเช่นกัน
ยิ่งไปกว่านั้น ธรรมาภิบาล (governance) เป็นเพียงหนึ่งในข้อดีของการถือครองเหรียญ ALPACA
การเพิ่มขึ้นของราคาเหรียญ (ด้วย deflationary mechanism)
เหรียญ ALPACA จะมีภาวะเงินฝืดในระยะยาวเนื่องจากการปล่อยเหรียญแบบมีการจำกัดจำนวน ในขณะที่เรามีการเผาเหรียญแบบมีผลถาวรและจะเผาต่อไปเรื่อยๆ อันที่จริงค่าธรรมเนียมโปรโตคอลส่วนใหญ่นำไปใช้ในการเบิร์นโทเค็น: 100% ของค่าธรรมเนียมการชำระบัญชี และ 50% ของค่าธรรมเนียมการให้ยืม ดังนั้นในขณะที่ Alpaca Finance เติบโตอย่างต่อเนื่อง ALPACA จะถูกเผามากขึ้น ส่งผลให้มูลค่าของโทเค็น ALPACA ที่เหลืออยู่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและถาวร
โอกาสในการทำกำไร
ผ่านการสร้างพันธมิตร เราจะแจกจ่ายโทเค็นจากโปรแกรม Grazing Range ให้กับผู้ถือ ALPACA ที่ล็อค ALPACA ไว้ใน governance vault
สิทธิพิเศษของ NFT
เราวางแผนไว้ว่าจะเชื่อมต่อ NFTs กับบริการต่างๆบนแพลตฟอร์ม ผู้ใช้งานจำเป็นต้องถือ ALPACA เพื่อที่จะได้รับสิทธิประโยชน์ เช่นเดียวกับการได้รับ NFTs เหล่านี้ตอนแรก รวมไปถึงสินค้าต่างๆ เช่น สินค้า Alpaca ในชีวิตจริง
โปรโตคอลยูทิลิตี้ (Protocol Utility)
สุดท้ายนี้ เรากำลังวางแผนที่จะเพิ่มยูทิลิตี้และมูลค่าราคาสำหรับเหรียญ ALPACA ภายในโปรโตคอล
ประการหนึ่ง เรามีแหล่งเงินกู้ ALPACA ที่เสนอ leverage บนคู่ฟาร์มที่ใช้เหรียญ ALPACA ซึ่งในขณะนี้มีฟีเจอร์นี้สำหรับคู่โทเค็นที่ได้รับความนิยมมากที่สุดหรือเป็นพันธมิตรพิเศษกับเราเท่านั้น เมื่อคู่ฟาร์มของเหรียญ ALPACA ที่มีเลเวอเรจมีมากขึ้น ความต้องการของเหรียญ ALPACA จะเพิ่มขึ้น เนื่องจากการถือเหรียญ ALPACA เท่ากับการได้รับโอกาสที่จะได้รับผลตอบแทนที่สูงขึ้นจากทั้งการให้ยืมและการทำฟาร์ม
นอกจากนี้ เรายังมี Grazing Range ที่ไม่เหมือนใครซึ่งคุณจะสามารถ stake เหรียญ ibALPACA เพื่อรับรางวัลโทเค็นที่คุณเลือกจากพันธมิตร โดยเป็นการเพิ่มยูทิลิตี้ไปในตัว
ในระยะยาว วิสัยทัศน์ของเราคือเหรียญ ALPACA จะเพิ่มยูทิลิตี้ให้กับ protocol เช่นเดียวกับที่ BNB เพิ่มยูทิลิตี้ให้กับ Binance และ BNB Chain
อย่างไรก็ตาม นี่เป็นเพียงบางส่วนที่เรากำลังดำเนินการเกี่ยวกับเหรียฯ ALPACA เราจะประกาศโครงการริเริ่มอีกมากมายในอนาคต สำหรับตอนนี้ คุณสามารถอ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับโทเค็น ALPACA ได้ที่นี่
ฉันจะได้รับเหรียญ ALPACA ได้อย่างไร?
เราเป็นโครงการเปิดตัวอย่างยุติธรรม ไม่มีนักลงทุน การขายล่วงหน้า หรือการ mine ล่วงหน้า ดังนั้น วิธีเดียวที่จะได้รับ ALPACA คือการเข้าร่วมบนแพลตฟอร์มของเรา หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการได้รับเหรียญ ALPACA โปรดไปที่หน้า tokenomics ของเรา: https://docs.alpacafinance.org/tokenomics/alpaca-tokens
ฉันจะซื้อเหรียญ ALPACA ได้ที่ไหน?
คุณสามารถซื้อ ALPACA ได้จาก CEX และ DEX เหล่านี้
CEXes
Binance.com (different than Binance.us)
DEXes
DEX Aggregators:
ALPACA token address (BNB Chain): 0x8F0528cE5eF7B51152A59745bEfDD91D97091d2F
ALPACA token address (Fantom): 0xaD996A45fd2373ed0B10Efa4A8eCB9de445A4302
เนื่องจากแพลตฟอร์ม Multichain ได้หยุดให้บริการแล้วจึงเป็นไปไม่ได้ที่จะ bridge โทเค็น ALPACA ระหว่าง BNB Chain และ Fantom ดังนั้นเราจึงยุติการสนับสนุนโทเค็น ALPACA บน Fantom คุณยังสามารถแลกเปลี่ยนโทเค็น ALPACA ของคุณบน Fantom กับโทเค็นอื่นได้อยู่และ bridge กลับมายัง BNB Chain
อย่างไรก็ตาม ถ้าคุณมี ALPACA ที่ถูกล็อคไว้ใน governance บน Fantom ทำตามคำแนะนำนี้เพื่อที่จะได้โทเค็นกลับมาบน BNB Chain
ยิ่งไปกว่านั้นพวกเรายังพยายามเพิ่มเหรียญ ALPACA บน CEX และ DEX อื่นๆเรื่อยๆ
ฉันจะเรียนรู้เกี่ยวกับ DeFi ได้อย่างไร?
ศึกษาเพิ่มเติมได้ที่ Alpaca Academy!
ฉันจะคำนวณมูลค่าของเหรียญ LP ได้อย่างไร?
ALPACA กับ ibALPACA แตกต่างกันอย่างไร
เหรียญ 2 เหรียญนี้แตกต่างกัน โดยที่เหรียญ ALPACA เป็นเหรียญหลักของ Alpaca Finance.
เมื่อคุณฝาก ALPACA ในห้องนิรภัยของเราในหน้า Lend คุณจะได้รับเหรียญ ibALPACA ซึ่งเป็นโทเค็นที่มีดอกเบี้ยซึ่งแสดงถึงส่วนแบ่งของเหรียญ ALPACA คุณในห้องนิรภัยที่คุณฝากไว้ คุณสามารถแลก ibALPACA กลับเป็น ALPACA ได้เมื่อคุณถอนออกจากห้องนิรภัย เหรียญ ibALPACA จะสะสมดอกเบี้ยที่คุณได้รับจากการให้ยืมและจะมีมูลค่าในรูปแบบของ ALPACA มากกว่าเมื่อคุณถอนเมื่อเทียบกับเมื่อคุณฝากเงิน ปัจจุบัน ibALPACA ยังไม่มีการซื้อ/ขายในตลาดใดๆ และทุกคนสามารถรับได้โดยการฝาก ALPACA เพื่อการให้ยืมเท่านั้น
การเบิร์นทำงานยังไง? เพราะ ALPACA มีจำนวนจำกัด การเบิร์นไปเรื่อยๆจะไม่ทำให้ supply หายไปหรือ? แล้วทำไมไม่ส่งให้คนที่ถือเหรียญ Alpaca แทนที่จะเบิร์น?
การเบิร์นเหรียญ ALPACA เกิดขึ้นต่อเนื่อง สิ่งนี้เกิดขึ้นโดยส่งเหรียญไปที่ burn address ซึ่งเป็นที่อยู่ที่ไม่สามารถกู้คืนได้ คุณสามารถดูประวัติการเบิร์นได้ ที่นี่ แต่ว่าจำนวนเหรียญ Alpaca ทั้งหมดอยู่ที่ 188 ล้าน (และหักลบส่วนที่เบิร์นไปแล้ว) แต่เป็นไปไม่ได้ที่จะเบิร์นจน supply เหลือ 0 และจะยังมีเหรียญ Alpaca เหลือในตลาด เพราะนี่เป็นกลไกการเบิร์น หรือกลไกอุปสงค์อุปทาน
การเบิร์นคือการทำลายเหรียญทิ้งบางส่วน และลดปริมาณ supply ของเหรียญลงในตลาด และเมื่อปริมาณเหรียญลดลง จะทำให้ราคาของเหรียญที่เหลืออยู่มาราคามากขึ้น ตัวอย่าง ถ้ามีเหรียญ 100 เหรียญ และแต่ละเหรียญมีราคา 1 ดอลล่าห์ จะทำให้ market cap มีมูลค่า $100 ถ้าเบิร์นเหรียญทิ้งไป 50 เหรียญ ราคาใหม่ของเหรียญจะเป็น X ที่จะคูณ 50 แล้วได้ 100
นั้นก็คือราคาของเหรียญที่เหลืออยู่จะมีมูลค่าเท่ากับ 2 แปลว่าจำนวนของเหรียญที่เปลี่ยนไปไม่ได้เปลี่ยนจำนวน market cap และการเบิร์นเหรียญและลด supply จะทำให้ Alpaca เป็นประเภทเหรียญ deflationary (สภาพคล่องฝืด) ทำให้การถือเหรียญ Alpaca จะราคาเพิ่มขึ้นในระยะยาว
และการเบิร์นต่อเนื่องนี้จะไม่ทำให้ supply เป็น 0 เพราะเราใช้วิธีซื้อกลับและเบิร์น แปลว่าเราจะต้องซื้อเหรียญ Alpaca ด้วยเงินทุนของแพลตฟอร์มแล้วค่อยเบิร์น และเพราะการซื้อคืนนี้เองเท่ากับว่าเราจะซื้อเหรียญคืนกลับในจำนวนน้อยลงแม้ว่าเราจะต้องจ่ายในราคามากขึ้นก็ตาม
ดังนั้น คนที่ถามว่าทำไมไม่ทำแค่แชร์รายได้ ที่จริงแล้วเราทำทั้งสองอย่าง เพราะผู้ถือเหรียญ Alpaca จะได้รับรายได้จาก protocol APR ที่ทบเหรียญ Alpaca ใน lending pool จากนั้นรายได้จาก performance fee จาก lending จะถูกนำไปซื้อคืนแล้วเบิร์น Alpaca เหตุผลที่เราทำแบบนี้เพราะสามารถกระจายมูลค่ากลับให้ผู้ถือเหรียญ Alpaca ได้ดีกว่า
ผู้ใช้สามารถขายเหรียญ ALPACA ที่ได้จาก Protocol APR และถึงจะไม่ขาย และเหรียญ ALPACA ที่เบิร์นไปแล้วจะถูกส่งมูลค่ากลับไปผู้ที่ถือเหรียญผ่านทางการเพิ่มราคา และสิ่งนี้เกิดขึ้นได้ในการทำธุรกรรมเพียงครั้งเดียว และเราสามารถการันตีกลไกสภาพคล่องฝืดได้ ซึ่งจะไม่เกิดขึ้นถ้าเราเลือกที่จะแชร์รายได้เป็นเหรียญที่สามารถขายต่อได้
ทำไมหน้า application ถึงไม่โหลด/โหลดช้า?
ถ้าหากว่าใช้เวลามากกว่า 30 วินาทีในการโหลด กรุณาปล่อยให้ระบบโหลดต่อไป อย่าทำการ refresh เนื่องจากจะทำให้ระบบเริ่มการโหลดใหม่อีกครั้ง
บางครั้งอาจจะเกิดปัญหาที่ BNB Chain หรือ third-party data providers ซึ่งถ้าเกิดว่าคุณสังเกตใน application ของเรา คุณจะพบว่าเราได้ให้ข้อมูลมากมายที่เป็นข้อมูลที่แม่นยำและ real-time ซึ่งข้อมูลเหล่านี้ล้วนเป็นประโยชน์ต่อการตัดสินใจต่างๆ แต่ก็หมายความว่าระบบของเราต้องใช้เวลาในการโหลดมากขึ้นเช่นกัน เนื่องจากการดึงข้อมูลจาก blockchain โดยปกติในขณะนี้ จะใช้เวลามากกว่าโหลดข้อมูลจากอินเตอร์เนท แต่เราเชื่อว่า การที่เราให้ข้อมูลที่แม่นยำ มีความสำคัญมากกว่าการให้ข้อมูลอย่างรวดเร็วเพียงอย่างเดียว
ทำไมค่า gas ถึงสูงกว่า DApps อื่นๆ บน BNB Chain?
ระบบของเราไม่ได้ใช้ค่า gas ทั้งหมด โดยปกติแล้วจะมีการเรียกเก็บค่า gas เพิ่มเติม เพื่อเป็นการทำให้ transaction สำเร็จและไม่ล้มเหลว ซึ่งคุณสามารถตรวจสอบได้ หลังจาก transaction สำเร็จแล้ว ว่าค่าแก๊สถูกใช้ไปจริงๆเท่าไหร่ใน bscscan
อีกปัจจัยหนึ่งที่มีผลต่อค่า gas คือ ระบบของเรามีการทำงานหลายขั้นตอนอยู่เบื้องหลัง โดยเฉพาะการเปิด farming position เช่น การกู้ยืม การจ่ายคืน การแลกเปลี่ยนเหรียญเพื่อทำให้อัตราส่วนระหว่างคู่เหรียญเป็น 50:50 การ add/remove liquidity และอื่นๆ ซึ่งขั้นตอนเหล่านี้ต่างใช้ค่า gas ในการดำเนินการ โดยปกติแล้วคุณจะต้องเป็นผู้ทำขั้นตอนเหล่านี้ด้วยตัวเองใน DApps อื่น
ถ้าคุณต้องการลดค่า gas คุณสามารถใช้ RPC ที่ให้ส่วนลดได้ คุณสามารถหาได้ที่นี่
ทำไมถึงมีเงินใน liquidation treasury ที่ยังไม่ถูกใช้ในการ buyback&burn? ทำไมถึงไม่ buyback ทันทีที่ได้รับเงินทุน?
Liquidation Treasury: BNB Chain: https://bscscan.com/address/0x0FfA891ab6f410bbd7403b709e7d38D7a812125B Fantom: https://ftmscan.com/address/0x0FfA891ab6f410bbd7403b709e7d38D7a812125B
เวลาการ Buyback เมื่อเงินทุนเข้ามาใน liquidation treasury พวกเราจะทำการ buyback และ burn เรื่อยๆ มิเช่นนั้น ถ้าเราเผาที่เดียวหมด ณ เวลาที่กำหนดไว้และยิ่งเป็นการ buyback จำนวนมาก อาจทำให้เกิด sandwich attacks
หลักการ Sandwich Attack Sandwich attack คือวิธีการทำธุรกรรมล่วงหน้า (front-running) ที่ส่วนใหญ่จะเล็งโปรโตคอลทางการเงินแบบกระจายอำนาจและการบริการ ใน sandwich attack เทรดเดอร์ที่ไม่ประสงค์ดีจะทำการหาธุรกรรมที่กำลังอยู่ระหว่างการยืนยันบน network เช่น Ethereum การ sandwiching จะเกิดโดยการวางออเดอร์ก่อนหน้าแล้วหลังหนึ่งรายการ ตามหลักแล้ว ผู้โจมตีจะทำการ front-run และ back-run ในเวลาเดียวกัน พร้อมกับธุรกรรมที่อยู่ระหว่างการรอที่อยู่ตรงกลาง เป้าหมายของการวาง 2 ออเดอร์ครอบธุรกรรมที่กำลังอยู่ระหว่างการยืนยันคือเพื่อทำการควบคุมราคาสินทรัพย์ อย่างแรกเลยผู้กระทำผิดจะซื้อสินทรัพย์ที่ผู้ใช้งานกำลังจะแลกเปลี่ยนเป็น — เช่น การใช้ LINK แลกเปลี่ยนเป็น ETH — ซึ่งจะทำให้รู้ว่าราคา ETH กำลังจะขึ้น หลังจากนั้นผู้กระทำผิดจะซื้อ ETH ในราคาที่ถูกกว่าเพื่อให้เหยื่อซื้อในราคาที่แพงกว่า ผู้โจมตีก็จะขาย ETH ในราคาสูงในเวลาต่อมา
ธุรกรรมการ sandwiching จะส่งผลกับจำนวน ETH ที่ผู้ใช้งานจะได้รับ ในขณะที่ผู้กระทำผิดสามารถทำธุรกรรมได้ตามราคาดั่งที่หวังไว้ การเทรดครั้งต่อไปจะต้องจ่ายในราคาที่สูงขึ้น ลำดับการนั้นจะทำให้ราคา ETH สูงขึ้น ทำให้ผู้กระทำผิดทำกำไรจากการ front- และ back-run เทรดเดอร์แล้วทำให้ราคาสินทรัพย์สูงขึ้นโดยใช่เหตุ
เวลาการเผาเหรียญ กลยุทธ์การเผาเหรียญของเราคือการแบ่งการเผาในทุกสัปดาห์เพื่อที่จะเพิ่มจำนวนสัปดาห์ที่มีภาวะเงินฝืด อารมณ์ตลาดระยะสั้นนั้นค่อนข้างแปรผันตรงกับสถานการณ์ตลาดโดยรวม และจากประสบการณ์เรา การเผาเหรียญเยอะๆในสัปดาห์เดียวมีผลกระทบไม่ใกล้เคียงกับการการันตีภาวะเงินฝืดในแต่ละสัปดาห์
ทุกสัปดาห์ 100% ของกองทุนการเผาที่มาจากทุกแหล่งจะถูกเผา ยกเว้นกองทุนบางส่วนที่ไม่ได้มีอย่างสม่ำเสมอ เช่น คลังการบังคับชำระหนี้ (liquidation treasury) และ ค่าธรรมเนียมจากการถอนเงินล่วงหน้าใน governance vault (early governance withdrawal) จะค่อยๆถูกเผา วิธีการที่เราจะทำการเผาเหรียญจากคลังจะเป็นตามนี้ ถ้าการเผาเหรียญนั้นน้อยกว่าเหรียญที่ถูกผลิตออกมา (ซึ่งเป็นแบบนี้มาตลอดตั้งแต่ Alpaca ถือกำเนิดขึ้นมา) เราจะทำการถอนจากคลังการบังคับชำระหนี้เพื่อทำให้จำนวน ALPACA ทั้งหมดที่จะถูกเผาในสัปดาห์นั้น (รวมถึงจำนวนจากรายได้ต่างๆ) นั้นมีมากกว่าจำนวนโทเค็นที่ถูกผลิตในสัปดาห์นั้นๆ -- เพื่อให้เหรียญเกิดภาวะเงินฝืด
ในอนาคต เมื่อการเผาเหรียญจากรายได้นั้นมากกว่า ALPACA ที่ผลิตออกมา ถ้ามีเงินเหลือจากคลังบังคับชำระหนี้ เราจะทำการเผาในปริมาณนึงทุกสัปดาห์ เช่น 100,000 - 250,000
ฉันจะปรับค่า slippage ได้อย่างไร?
ในแอพข้างบนขวามือจะมีไอคอนรูปเกียร์ (ไฮไลท์กล่องสีแดงตามรูปด้านล่าง) คลิกที่ไอคอนแล้วคุณจะสามารถเปลี่ยนค่า slippage ที่มากที่สุดได้
การปล่อยกู้ (Lending)
ผู้ปล่อยกู้จะโดนบังคับชำระหนี้ไหม?
ไม่โดน คนที่เสี่ยงการโดนบังคับชำระหนี้ คือเฉพาะคนที่กู้ยืมด้วยระบบเลเวอเลจ และราคาเหรียญเคลื่อนไหวไปในทางที่ไม่ดีมากเกินไป
ฉันในฐานะผู้ปล่อยกู้ จะโดนหนี้เสียไหม?
เป็นไปได้ยากมาก เพราะ Alpaca ตั้งเพดานหนี้ (liquidation thresholds) ไม่สูงมากซึ่งปกป้องผู้ปล่อยกู้ และโปรโตคอลยังมีระบบความปลอดภัยอีกหลายชั้น เช่น ระบบข้อมูลราคาจาก Chainlink และมี Alpaca Guard ที่ป้องกันการปั่นราคา และระบบป้องกันการโจมตี flash loan
ทำไมฉันจึงไม่สามารถถอนเงินออกจาก pool เงินกู้ได้?
Pool เงินกู้มีไว้ให้คนกู้เงิน นั่นเป็นเหตุผลที่คุณได้รับผลตอบแทนจากมัน ดังนั้นเมื่อมีคนยืมเงินของคุณที่ปัจจุบันกำลังอยู่ใน position ที่เปิดใช้งานอยู่ คุณจะถอนเงินได้อย่างไร? หากคุณไม่สามารถถอนออกได้ แสดงว่าอัตราการใช้ประโยชน์ pool เงินกู้อยู่ในระดับสูงมาก ซึ่งหมายความว่าเปอร์เซ็นต์ของเงินทุนที่กำลังถูกยืมในขณะนี้สูง คุณสามารถลองลดจำนวนเงินที่คุณพยายามถอนออกเผื่อทำได้สำเร็จ อย่างไรก็ตาม การไม่สามารถถอนออกได้ก็เป็นปัญหาชั่วคราว
โมเดลอัตราดอกเบี้ยของเรามีอยู่เพื่อรักษาระดับอัตราการใช้ประโยชน์ของเงินกู้ให้คงที่ เมื่อใช้เกิน 90 อัตราดอกเบี้ยจะสูงขึ้นอย่างมาก ทำให้การกู้ยืมมีอัคราดอกเบี้ยที่แพงสำหรับผู้กู้และอัตราดอกเบี้ยที่น่าดึงดูดสำหรับผู้ให้กู้ให้กู้ และจะนำไปสู่การปิด position ของผู้กู้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้และมีผู้ให้กู้มาปล่อยกู้มากขึ้น เมื่อสิ่งนั้นเกิดขึ้น อัตราการใช้ประโยชน์ของเงินกู้จะลดลงสู่ระดับที่เหมาะสมซึ่งทุกคนยังสามารถทำกำไรได้ในระหว่างที่ผู้ให้กู้สามารถถอนเงินคืนได้โดยไม่มีปัญหา ทั้งหมดนี้ไม่ควรใช้เวลานานกว่าชั่วโมงในกรณีส่วนใหญ่ และหากอัตราการใช้ประโยชน์ยังคงสูงเป็นเวลาสองสามวันติดต่อกัน ทีมงานจะเข้ามาเปลี่ยนโมเดลอัตราดอกเบี้ยให้นำไปสู่อัตราการใช้ประโยชน์เงินกู้ที่ต่ำลง
เรายังพยายามเพิ่มประสิทธิภาพทีละขั้นเพื่อให้มีโมเดลอัตราดอกเบี้ยที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดเสมอ ซึ่งช่วยให้ทุกคนมีกำไรในขณะที่ผู้ให้กู้สามารถถอนเงินออกได้อย่างง่ายดายเช่นกัน คุณสามารถอ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับโมเดลอัตราดอกเบี้ยได้ที่นี่
Leveraged Yield Farming
อะไรคือ leveraged yield farming?
การทำ Leverage คือผลของการยืมเงินทุนมาเพื่อทบกับสินทรัพย์ต้นทุนของคุณและเพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนจากเงินทุนที่มี หรือเรียกอีกนัยว่าคุณยืมเงินทุนมาต่อทุนทำให้คุณสามารถลงทุนได้มากขึ้น และได้รับผลตอบแทนมากขึ้น
ในบริบทของการทำ yield farming การทำ leverage คือการยืมสินทรัพย์มาเพื่อทวีคูณจำนวณเหรียญที่ใช้ในฟาร์ม และจำนวนเงินก้อนนั้นที่ทำฟาร์มเรียกว่า position ที่จะมาสร้างผลตอบแทนให้กับคุณ ซึ่งเป็นกลยุทธ์การสร้างผลตอบแทนทั่วไป อ่านเรื่อง leverage เพิ่มเติม: https://thedefiant.io/leveraged-yield-farming/
เหตุใดธุรกรรมของฉันจึงล้มเหลวเมื่อพยายามเปิด position การฟาร์มด้วยเลเวอเรจ?
คุณต้องตั้งค่าขีดจำกัดก๊าซ (gas limit) เป็นอย่างน้อย 2 ล้าน เนื่องจากโค้ดของเราทำงานค่อนข้างเยอะ (การตั้งค่าโทเค็น LP ของตำแหน่งของคุณโดยการแปลงสินทรัพย์แต่ละรายการอย่างเหมาะสมที่สุด) หากไม่ได้ผล ให้ลองเพิ่มแก๊สด้วย หากยังคงใช้ไม่ได้หลังจากพยายามหลายครั้ง โปรดติดต่อเราที่ contact@alpacafinance.org หรือ DM ผู้ดูแลระบบทาง Telegram หรือ Discord
ฉันพยายามเปิด/ปิด position การฟาร์ม TX ของฉันล้มเหลว แต่ฉันไม่พบเงินของฉัน ฉันต้องทำอย่างไร?
ใจเย็นๆ อัลปาก้าน้อย เงินของคุณปลอดภัย โค้ดของเราจะต้องแปลงเงินเป็น wBNB เพื่อ interact กับ AMM เนื่องจาก TX ของคุณล้มเหลวระหว่างทาง เงินของคุณยังคงอยู่ในรูปแบบ wBNB กล่าวอีกนัยหนึ่ง โทเค็นของคุณอยู่ในกระเป๋าเงินของคุณตั้งแต่แรกแล้ว
เพิ่มแอดเดรสเหรียญ wBNB ลงในกระเป๋าเงินของคุณ: 0xbb4cdb9cbd36b01bd1cbaebf2de08d9173bc095c
คุณสามารถ unwrap wBNB ของคุณให้เป็น BNB ได้โดยไม่มีค่าธรรมเนียมบน PancakeSwap จากนั้น ลองเปิดตำแหน่งโดยใช้คำแนะนำในคำถามที่พบบ่อยด้านบนนี้
Position การทำฟาร์มของฉันถูกสร้างสำเร็จตาม TX แต่ทำไมฉันไม่เห็นมันในหน้าฟาร์ม?
ขั้นแรก ลองปิดระบบ Profit and Loss ในหน้า Portfolio.
ถ้าหากว่ายังไม่สามารถเห็น position ได้ กรุณาใจรอประมาณ 24 ชั่วโมง ปัญหานี้ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อย โดยสาเหตุเกิดจาก BNB Chain nodes ทำงานผิดพลาด และเราไม่สามารถแก้ไขอะไรได้ ซึ่งมันเป็นเพียงปัญหาเรื่องการแสดงผลเท่านั้น ถ้าหากว่า transaction สำเร็จแล้ว position ของคุณจะถูกสร้าง สามารถได้ผลตอบแทนตามปกติ
ทำไมดอกเบี้ยเงินกู้จึงสูง? ทำไมอัตราการใช้ประโยชน์ pool เงินกู้ถึงสูง? ทำไม APY ของฉันติดลบ?
อัตราดอกเบี้ยสูงทั้งนี้เนื่องมาจากอัตราการใช้ประโยชน์ pool เงินกู้ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วสืบเนื่องมาจากอุปสงค์และอุปทานของสินทรัพย์ที่ให้ยืม มีคนจำนวนมากเกินไปที่ต้องการยืมเงินใน pool สินทรัพย์นี้ และมีผู้ให้กู้ไม่เพียงพอ ซึ่งนำไปสู่อุปสงค์ที่สูงและอุปทานที่ต่ำ อย่างไรก็ตามอัตราการใช้ประโยชน์ pool เงินกู้ไม่ควรอยู่ในระดับสูงนาน
ตามที่อธิบายไว้ในคำถามก่อนหน้านี้ซึ่งคุณสามารถอ้างอิงได้ อัตราการใช้ประโยชน์ pool เงินกู้จะนำไปสู่กลไกการแก้ไขของโมเดลอัตราดอกเบี้ยของเราที่จะทำให้มีผู้ให้กู้มากขึ้นตามตามอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่สูงขึ้นและผู้กู้ที่นำเงินมาคืนเนื่องจากดอกเบี้ยเงินกู้สูงเกินไป เพียงแค่รอและคุณจะสามารถเห็นสิ่งนี้เกิดขึ้น
ยังไม่มีอะไรต้องกังวลมากนัก แม้ว่า APY จะติดลบ มันก็จะต้องติดลบอยู่นานพอกว่าคุณจะเริ่มสูญเสียเงินทุนจำนวนมาก และไม่เพียงแต่ระบบได้รับการออกแบบมาเพื่อป้องกันสิ่งนี้และเพื่อผลักดันการแก้ไขให้เกิดขึ้นในไม่กี่นาที แต่ทีมจะก้าวเข้ามาเพื่อเปลี่ยนโมเดลอัตราดอกเบี้ยหากเราพบเจอจุดที่มีความไร้ประสิทธิภาพ
เรายังพยายามเพิ่มประสิทธิภาพทีละขั้นเพื่อให้มีโมเดลอัตราดอกเบี้ยที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดเสมอ ซึ่งช่วยให้ทุกคนมีกำไรในขณะที่ผู้ให้กู้สามารถถอนเงินออกได้อย่างง่ายดายเช่นกัน คุณสามารถอ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับโมเดลอัตราดอกเบี้ยได้ที่นี่
ฉันพึ่งเปิด position สำหรับ leveraged yield farming แต่ทำไมมูลค่าสินทรัพย์ (equity value) ของฉันจึงลดลง?
Equity value เมื่อคุณเปิด position คือมูลค่าของเงินทุนหลักของคุณเมื่อคุณเพิ่มไปใน position ครั้งแรก อย่างไรก็ตาม โปรดจำไว้ว่า เนื่องจากคุณกำลังฟาร์มแบบมีเลเวอเรจและไม่ใช่การทำฟาร์มปกติ คุณได้ทำการยืมเงิน ขึ้นอยู่กับสินทรัพย์ที่คุณเพิ่มและระดับเลเวอเรจ โปรโทคอลอาจต้องทำการแปลงสินทรัพย์ผ่าน AMM เพื่อทำให้ทั้งสองสกุลสินทรัพย์ (ซึ่งรวมเงินต้น + เงินที่ยืมมา) ให้อยู่ในอัตราส่วน 50:50 เพื่อเปิด position LP ให้คุณ นั่นหมายความว่าคุณจะต้องจ่ายผลกระทบด้านราคา หรือ price impact (slippage) + ค่าธรรมเนียมการซื้อขาย ค่าธรรมเนียมเหล่านั้นจะลด equity value เริ่มต้นของคุณและทำหน้าที่เป็นต้นทุนในการเปิด position การทำฟาร์มด้วยเลเวอเรจ เมื่อคุณปิด position คุณก็จะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมที่คล้ายกัน
นั่นคือเหตุผลที่เมื่อคุณต้องการฟาร์มด้วยเลเวอเรจสูง คุณควรจำไว้ว่าคุณควรที่จะเปิด position นั้นไว้ชั่วขณะหนึ่ง ด้วยวิธีนี้ คุณจะมีเวลาเพียงพอให้ผลตอบแทน APR งอกเงยมากพอเพื่อครอบคลุมค่าใช้จ่ายในการเปิดและปิด position ของคุณ และเปิดโอกาสให้คุณสร้างผลตอบแทนเพิ่มเติม
หากคุณไม่ต้องการจ่ายค่าใช้จ่ายในการปิดหรือเปิด position คุณยังสามารถทำฟาร์มที่ 1x(การทำฟาร์มโดยไม่ต้องกู้) หรือมากถึง 2x ในขณะที่เพิ่มเงินต้นเพื่อที่ว่าเมื่อรวมกับเงินที่กู้มา สินทรัพย์ของคุณจะอยู่ในอัตราส่วน 50:50 และโปรโทคอลจะไม่ต้องทำการแปลงสินทรัพย์ใดๆ
ตัวอย่างเช่น หากคุณต้องการฟาร์ม ETH-BNB ที่เลเวอเรจ 2x และคุณวางแผนที่จะยืม 2 BNB หากคุณเพิ่มจำนวน ETH ที่มีมูลค่า 2 BNB สินทรัพย์จะแบ่งเป็น 50:50 แล้วคุณจะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมการแลกเปลี่ยนใดๆ
เหตุใดมูลค่าสินทรัพย์ (equity value) ของฉันจึงลดลงต่ำกว่ามูลค่า ณ วันที่ฉันเปิด position แม้ว่าฉันจะทำ leveraged yield farming ด้วยคู่สินทรัพย์ stablecoin-stablecoin?
ประการแรก โปรดอ่านคำตอบของคำถามก่อนหน้านี้ หากคุณไม่ทราบว่าเหตุใดมูลค่าสินทรัพย์ (equity value) ของคุณน้อยกว่าเงินต้นที่คุณเพิ่มเข้าไป
ประการที่สอง คุณควรจำไว้ว่าการเคลื่อนไหวของราคาที่มีเลเวอเรจจะส่งผลต่อ equity value ของคุณมากกว่าปกติ โปรดดูกราฟราคาของคู่สินทรัพย์ของคุณ แม้ว่าจะเป็นคู่สินทรัพย์ stablecoin-stablecoin แต่ราคาก็แกว่ง 1-2% อย่างสม่ำเสมอ ด้วยเลเวอเรจ การเคลื่อนไหวของราคานั้นจะเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ แน่นอน เนื่องจากสินทรัพย์เหล่านี้คือ stablecoin คุณจะมั่นใจได้ว่าอีกไม่นานราคาของมันจะกลับมาสู่ราคาตรึงที่ถูกกำหนดไว้
คุณอาจมีข้อสงสัยอีกประการหนึ่ง: เนื่องจากนี่คือ pool LP มันไม่สำคัญหรอกว่าเหรียญ Stablecoin หนึ่งจะมีมูลค่าลดลงเพราะนั่นหมายความว่าอีกเหรียญมีมูลค่าสูงขึ้น หากฉันกำลังทำฟาร์ม USDT-BUSD และ USDT มีมูลค่าลดลง BUSD จะเพิ่มขึ้นเพื่อครอบคลุมสิ่งนั้น และ IL นั้นแทบจะไม่มีเพราะมีการเคลื่อนไหวของราคาเพียงเล็กน้อย
นั่นคือกรณีของการทำฟาร์มปกติ อย่างไรก็ตาม เมื่อคุณเลเวอเรจสูงกว่า 2 เท่า คุณกำลังยืมสินทรัพย์ และนั่นก็หมายความว่าคุณไม่ได้ long แต่ short สินทรัพย์นั้น (คุณสามารถอ่านบทความเพิ่มเติมเกี่ยวกับการ short ได้ที่นี่)
สิ่งนี้หมายความว่าเมื่อคุณยืม BUSD เพื่อทำฟาร์มเช่น USDT-BUSD คุณกำลัง long USDT และ short BUSD ดังนั้นเมื่อราคาของ USDT ลดลง คุณกำลังสูญเสียมูลค่าในส่วนของ USDT ของคุณ แต่ก็หมายความว่าคุณจะสูญเสียมูลค่าของ BUSD ของคุณเมื่อราคาเพิ่มขึ้น สิ่งนี้สร้างความผันผวนเพิ่มเติมทำให้เกิดการขาดทุนเพิ่มเติม
ยิ่งไปกว่านั้น มันไม่จริงเสมอไปที่มูลค่า BUSD จะเพิ่มขึ้นเมื่อราคา USDT ตกลง เนื่องจากราคาของทั้ง USDT และ BUSD สามารถลดลงเมื่อเทียบกับตลาดในเวลาเดียวกัน และยังคงมีอัตราส่วนเช่น .99:1.01 แม้ว่าจะไม่เกิดกับ Stablecoin แต่ก็เกิดขึ้นค่อนข้างบ่อยกับโทเค็นที่ไม่ได้มีการตรึงราคา
สุดท้ายนี้ คุณต้องตระหนักว่า เราจะแสดงให้คุณเห็นเมื่อมูลค่าทรัพย์สินของคุณลดลงซึ่งไม่เหมือนกับฟาร์มอื่นๆ โปรเจ็กต์ส่วนใหญ่ไม่แสดงมูลค่า USD ของโทเค็น LP ที่เดิมพันของคุณบนแดชบอร์ด ซึ่งเป็นสาเหตุที่อาจทำให้คุณประหลาดใจที่เห็น equity value ขึ้นและลง คุณอยากจะเพิกเฉยหรือรับรู้สิ่งนี้? เราต้องการแสดงข้อมูลดังกล่าวเพื่อให้ผู้ใช้ของเราสามารถตัดสินใจได้ดีขึ้น และเรากำลังดำเนินการเพิ่มตัวชี้วัดที่จะมีประโยชน์อยู่ตลอดเวลา
โดยสรุป ส่วนใหญ่เป็นเพราะราคาของสินทรัพย์ที่ long ของคุณลดลงชั่วคราวเมื่อเทียบกับสินทรัพย์ที่ยืมมา ย้ำว่าควรชั่วคราว
ทำไมผลตอบแทนของฉันไม่สูงอย่าง APY ที่แสดง? ทำไมมูลค่า position หรือ มูลค่าสินทรัพย์ (equity value) ของฉันไม่เพิ่มขึ้น?
ก่อนอื่น คุณควรแน่ใจว่าคุณเข้าใจว่า APY คืออะไร APY คืออัตราผลตอบแทนที่คุณจะได้รับเมื่อสิ้นปี หากคุณนำผลตอบแทนทั้งหมดกลับมาลงทุนทบต้นเป็นประจำเพื่อรับผลตอบแทนจากผลตอบแทนของคุณ นี่เป็นกระบวนการอันทรงพลังที่กลายส่งผลอย่างทวีคูณเมื่อเวลาผ่านไป
ในทางกลับกัน APR เป็นอัตราดอกเบี้ยแบบไม่มีการทบต้น ที่แสดงให้เห็นว่ารายได้โดยตรงของคุณจะเป็นอย่างไรเมื่อสิ้นปี หากคุณได้รับผลตอบแทนจากเงินต้น ณ ตอนเริ่มต้นของคุณเท่านั้น
นี่คือกุญแจสำคัญ เมื่อคุณเปิด position หรือทำการฝากเงินครั้งแรก APR=APY คุณรู้ไหมว่าทำไม? เพราะคุณยังไม่มีผลตอบแทนที่จะทบต้น! เมื่อเวลาผ่านไป เมื่อคุณได้รับผลตอบแทน APY จะเริ่มทะยานเหนือ APR เพราะคุณสามารถฝากผลตอบแทนเหล่านั้นใหม่และเริ่มสร้างรายได้แบบทบต้น สรุปได้ว่าคุณจะต้องใช้เวลากว่าผลตอบแทนของคุณจะไปถึง APY
หากต้องการดูเพิ่มเติม คุณสามารถแปลง APR เป็น APY ได้ที่นี่: https://www.aprtoapy.com/
ปัจจัยอีกประการหนึ่งที่คุณต้องจำไว้หากคุณได้รับผลตอบแทนจากการทำ leveraged yield farming ผลตอบแทนส่วนใหญ่จาก APR หรือ APY ของคุณอยู่ในรูปแบบเหรียญ ALPACA คุณสามารถเคลมผลตอบแทนเหล่านั้นได้ในหน้า Stake ผลตอบแทนเหล่านั้นจะไม่ถูกรวมอยู่ในมูลค่า position และไม่ถูกรวมอยุ่ในมูลสินทรัพย์ (equity value) ของคุณที่แสดงในแดชบอร์ดการทำฟาร์ม แน่นอน คุณสามารถเพิ่มผลตอบแทนเหล่านั้นเป็นหลักประกันใน position การทำฟาร์มของคุณ หรือหากคุณต้องการก็สามารถ stake พวกมันใน pool อื่นเพื่อรับผลตอบแทนซึ่งจะให้ผลเช่นเดียวกับการทบต้น
สำหรับ postion ที่มูลค่า position หรือ มูลค่า equity ไม่เพิ่มขึ้น หาก APR จากคู่การทำฟาร์มที่มีเลเวอเรจของคุณต่ำเพียงพอ อาจเป็นไปได้ว่าผลตอบแทนจากการทำฟาร์มและและผลตอบแทนจากค่าธรรมเนียมการซื้อขายเพียงพอสำหรับจ่ายค่าดอกเบี้ยเงินกู้เท่านั้น ในกรณีนั้น มูลค่าตำแหน่งของคุณจะไม่เพิ่มขึ้น แต่รางวัล ALPACA ที่คุณเคลมได้ก็ถือเป็นผลตอบแทนที่คุณจะได้รับเพียงแค่มันไม่ได้ถูกคำนวณในตัวชี้วัดเหล่านั้น
นอกจากนี้ สิ่งสำคัญที่ต้องจำไว้ว่าในระยะสั้นและระยะกลางคือ ผลกระทบที่ยิ่งใหญ่ที่สุดต่อ position/equity value ของคุณคือราคาของสินทรัพย์ ซึ่งก็เหมือนกับการทำฟาร์มที่อื่น หากราคาเคลื่อนไหวอย่างไม่เป็นที่พอใจสำหรับคุณ มันอาจส่งผลให้ position/equity value ของคุณลดลง เนื่องจากการฟาร์มต้องใช้เวลาเพื่อให้ได้ผลตอบแทนที่มีมากพอเมื่อเทียบกับเงินต้นของคุณ ผลตอบแทนเหล่านั้นจึงไม่สามารถครอบคลุมความเสี่ยงของการขึ้นลงของราคาสินทรัพย์นี้ได้ในเวลาอันสั้น ดังนั้น ขอแนะนำให้คุณเลือกอย่างระมัดระวังเกี่ยวกับคู่โทเค็นที่คุณจะนำไปใช้ในการทำฟาร์ม
ผลตอบแทน ALPACA ของฉันจากการทำฟาร์มอยู่ที่ไหน?
ในหน้าฟาร์ม บนแดชบอร์ด position ของคุณ คุณจะเห็นปุ่มเคลมที่ด้านบนขวา คลิกแล้วคุณจะได้รับผลตอบแทนของคุณ
Position ของฉัน ถูกบังคับขายเพื่อใช้หนี้ เงินลงทุนที่เหลือจะไปอยู่ที่ไหน
ถ้าหากมีเงินลงทุนเหลือจากการบังคับขายเพื่อใช้หนี้ คุณจะได้รับเงินเหล่านั้นในรูปแบบของเหรียญที่คุณกู้มา คุณสามารถตรวจสอบ position ที่เคยถูกบังคับขายเพื่อใช้หนี้ใน Farm tab ในหน้า Portfolio ซึ่งอาจจะเกิดความล่าช้าในการแสดงข้อมูล ในกรณีที่มีผู้ใช้งาน blackchain สูง
ศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับการขาย position เพื่อใช้หนี้ ได้ที่นี่
ทำไมดอกเบี้ยเงินกู้จึงสูงกว่า APR จากการปล่อยกู้?
นี่คือสูตรคำนวณ: อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ * อัตราการใช้ประโยชน์ pool เงินกู้ (lending pool utilization) * (1 - อัตราค่าธรรมเนียมโปรโทคอล) = APR จากการปล่อยกู้
ค่าธรรมเนียมโปรโทคอล = 0.1 หรือ 10%
Lending APR เป็นตัวแปรที่กำหนดโดยอิงจากโมเดลอัตราดอกเบี้ยสามระดับของเรา แต่การแสดงสูตรคำนวณในรูปแบบด้านบนช่วยให้คุณเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นได้ง่ายขึ้น
คุณสามารถมองได้ด้วยมุมนี้ เมื่อยีลด์ฟาร์มเมอร์ยืมเงิน พวกเขายืมเพียงแค่ส่วนเล็กๆของ pool เงินกู้เท่านั้น อย่างไรก็ตาม pool เงินกู้ทั้งหมดจะได้รับ Lending APR ที่เท่ากัน ดังนั้นดอกเบี้ยการกู้ยืมจึงจะถูกแจกจ่ายไปทั่วทั้ง pool ไม่ใช่เพียงแต่ส่วนของ pool ที่ถูกกู้ยืมเท่านั้น (ซึ่ง APR จะขึ้นอยู่กับอัตราการใช้ประโยชน์ pool เงินกู้) แต่ยังรวมถึงส่วนที่ไม่ได้ถูกกู้ของ pool อีกด้วย
ตัวอย่างเช่น ปกติแล้ว หากอัตราการใช้ประโยชน์ pool เงินกู้อยู่ที่ 10% และดอกเบี้ยเงินกู้คือ X ผู้กู้จะจ่าย X แต่ให้เฉพาะ 10% ของผู้ให้กู้เท่านั้น แต่ใน model ของเรา ผู้ให้กู้ทั้งหมดจะได้รับดอกเบี้ยเงินกู้ ดังนั้นดอกเบี้ยเงินกู้ที่แจกให้ 10% ของผู้ให้กู้จะถูกขยายไปทั่วทั้ง 100% ของผู้ให้กู้ ซึ่งก็คือเหตุผลหลักว่าทำไม APR ของเงินกู้จึงต่ำกว่าดอกเบี้ยเงินกู้
ฉันไม่ได้เคลมผลตอบแทน ALPACA จากการฟาร์ม เหตุใดจำนวนเหรียญ ALPACA ที่ฉันควรจะเคลมได้ถึงลดลง?
หากคุณสร้าง TX ใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับ position การฟาร์มที่เกี่ยวข้องกับสินทรัพย์ที่ให้ยืมนั้น โปรโทคอลจะเคลม ALPACA ให้คุณโดยอัตโนมัติ ดังนั้น หากคุณมี ALPACA ที่รอการเคลมจาก position BNB-BUSD และคุณเปิดหรือปิด position ใดๆที่มีคู่ BUSD หรือเพิ่มหลักประกัน ฯลฯ โปรโทคอลจะเคลม ALPACA ให้คุณโดยอัตโนมัติและส่งไปยังกระเป๋าเงินของคุณ
ตามตารางการแจกจ่าย การแจกจ่ายโทเค็น ALPACA ได้สิ้นสุดลงแล้ว
ฉันจะถูก liquidate หรือไม่หากคู่โทเค็นของฉัน flash crash? คุณใช้ oracle ใดสำหรับการ liquidate?
คำตอบสั้น ๆ คือไม่ เราเช็คราคาจาก exchange พื้นฐานของคู่โทเค็นของคุณแบบ on-chain แต่จะมีการตรวจสอบกับกลุ่มของ oracles off-chain ด้วยอย่างเช่น: Coinmarketcap, Coingecko, Cryptocompare, Nomic เป็นต้น หากราคาของ DEX มีความแตกต่างมากกว่า 10% จากค่ามัธยฐานของ oracles อื่นๆ โปรโทคอลจะปิดการ liquidate ชั่วคราว สิ่งนี้จะปกป้องคุณจากการควบคุมราคา (price manipulation) และ flash crash โหมดการป้องกันนี้เป็นคุณลักษณะของ Alpaca Guard ซึ่งคุณสามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
อะไรคือความแตกต่างระหว่าง leverage 1x 2x และ 3x?
1x leverage จะเหมือนการฟาร์มปกติ แต่ใน Alpaca จะมีการทำทบต้นให้คุณ
ที่มากกว่า 1x คุณจะทำการยืมสินทรัพย์เพื่อเพิ่มศักยภาพในการฟาร์ม และได้ผลตอบแทนที่สูงขึ้น สินทรัพย์เหรียญที่ไม่ได้ยืมนั้นจะมีผลเป็น long exposure ดังนั้นมูลค่าของสินทรัพย์จะเพิ่มเวลาที่ราคาเพิ่ม เหมือนกับการฟาร์มปกติ เวลาที่ยืม 2x สินทรัพย์ที่ยืมจะมีผลเป็น neutral หมายถึงราคาเหรียญที่ขึ้นลงไม่ต่างจากตอนเปิดมากนัก จะไม่ส่งผลต่อมูลค่าสินทรัพย์ (*สำหรับผู้ใช้ที่ต้องการทำ hedge neutral จำไว้ว่าการเทรดที่มากกว่า 2 เท่าจะทำให้เกิดราคาเคลื่อนไหวของเหรียญที่กู้ยืมเสมอทั้งทาง long/short ดังนั้นการเปิด position ที่ 2x จะไม่ใช่วิธีที่ดีที่สุดในการทำ hedge neutral เพราะการเปิด 2x จะมีผลเป็น neutral เฉพาะตอนที่เพิ่งเปิดเท่านั้น และเป็นเพียงตัวอย่าง ถ้าหากต้องการอ่านเกี่ยวกับ hedge neutral โปรดศึกษาต่อ ในบทความนี้ ซึ่งเป็นวิธีที่ดีกว่า และคุณสามารถดูประสบการณ์และตัวอย่างผลกระทบราคาได้ ที่นี่ และคุณสามารถคำนวณผลกระทบราคาได้โดยการใช้ yield farming calculator เวลาเปิด position สูงกว่า 2x คุณจะมีการ short สินทรัพย์ที่ยืมหมายความว่ามูลค่าของสินทรัพย์รวมจะเพิ่มเวลาที่ราคาเหรียญนั้นตกลง และมูลค่ารวมตกลงเวลาที่ราคาเหรียญนั้นขึ้น สำหรับการยืมน้อยกว่า 2x คุณจะทำการ long ทั้งสองเหรียญแต่จะ long ตัวที่ไม่ได้ยืม สรุปแล้ว เพื่อให้ได้ผลคอบแทนมากที่สุด คุณต้องเลือกว่าจะยืมเหรียญฝั่งไหน ถ้าคุณเลือกได้ ให้เลือกฝั่งเหรียญที่ตรงข้ามกับเหรียญที่คุณคิดว่าจะราคาขึ้น อย่างเช่นคู่ ETH-BNB ถ้าคุณคิดว่า ETH จะราคาขึ้นมากกว่า BNB ก็ให้ยืม BNB
การทำ leveraged farm จะให้ผลตอบแทนอย่างไร?
เวลาทำ leveraged farming positions จะมีรายได้สามส่วน และดอกเบี่ยเงินกู้ 1 ส่วน
ปริมาณ APR% ทั้งหมด = Yield Farming Rewards + Trading Fees + จากเหรียญ ALPACA - ดอกเบี้ยเงินกู้
ผลตอบแทนจาก Yield Farming มาจาก DEX (เช่น CAKE/WEX) ที่ protocol มอบให้ และผลตอบแทนนั้นจะถูกทบไปใน LP ของคุณ และเพราะคุณได้ตอบผลตอบแทนในรูป LP เท่ากับว่าปริมาณเหรียญ LP ใน position ของคุณจะเพิ่มตามระยะเวลา คุณสามารถดูมูลค่าของ position ของคุณได้เวลาที่เอาเม้าท์ไปวางเหนือ position
ผลตอบแทนจาก Trading fee จะสะสมในเหรียญ LP ของคุณ และเพราะคุณได้ตอบผลตอบแทนในรูป LP เท่ากับว่าปริมาณเหรียญ LP ใน position ของคุณจะเพิ่มตามระยะเวลา (คล้ายกับการทำงานของเหรียญ ibToken)
ผลตอบแทนจากเหรียญ ALPACA จะเพิ่มตามปริมาณของมูลค่าหนี้ คุณจะได้รับผลตอบแทนนี้จากการกดเคลมที่มุมขวาบนของ dashboard
ดอกเบี้ยกู้ยืม เป็นหนึ่งในสามแหล่งรายได้ที่จะนำไปจ่ายให้กับผู้ปล่อยกู้ ที่ให้สินทรัพย์คุณยืมมา และดอกเบี้ยกู้ยืมจะหักลบจากสินทรัพย์ต้น
ตามตารางการแจกจ่าย การแจกจ่ายโทเค็น ALPACA ได้สิ้นสุดลงแล้ว
การทำ auto-compound ของ leveraged farming จะส่งผลยังไงต่อมูลค่าสินทรัพย์และมูลค่าหนี้?
ผลตอบแทนที่ได้รับจากการ auto-compound (ทบต้น) trading fee และรางวัลจาก yield farming จะทบไปยังมูลค่าสินทรัพย์ และดอกเบี้ยกู้จะถูกหักออกจากมูลค่าสินทรัพย์นั้น
ทำไมฉันถึงเปิด leveraged yield farming position ด้วยกระเป๋า multi-sig ไม่ได้?
ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย เราอนุญาติให้กระเป๋า multi-sig ที่ได้ทำการ whitelist แล้วเท่านั้นที่จะสามารถเปิด LYF หรือ AV position ได้ โปรดส่งแอดเดรสของคุณมาที่ requests@alpacafinance.org เพื่อรับการ whitelist
Alpies
Alpies คืออะไร?
Alpies คือ NFT collection ที่วาดด้วยมือโดยจะมีจำนวนจำกัดเพียง 10,000 ชิ้น ซึ่งเราได้เปิดขายแบ่งเป็นสองส่วน โดยเราได้เปิดขายใน BNB Chain ก่อน แล้วจึงเปิดขายใน ETH ซึ่ง Alpies ทั้งสองชุดสามารถ bridge ระหว่าง BNB Chain กับ ETH ได้ จึงทำให้คุณสามารถซื้อขายผ่าน OpenSea และ NFT marketplace อื่นๆได้
The Dauntless Collection:
5,000 Alpies ที่มาในธีมของความมืด ได้ถูกเปิดขายบน BNB Chain เข้าร่วมกับ Alpies ผู้โหดเหี้ยมเหล่านี้ในเส้นทางสู่ความสำเร็จที่โหดร้ายกันเถอะ!
The Dreamers Collection:
5,000 Alpies ที่มาในธีมแสงสว่าง ได้ถูกเปิดขายบน Ethereum เข้าร่วมกับ Alpies ช่างฝันเหล่านี้ ในการพัฒนาวงการ crypto ให้เป็นโลกแห่งการเงินที่สงบสุขกันเถอะ!
ฉันสามารถซื้อ Alpies ได้อย่างไร?
The Dauntless collection บน BNB Chain ถูกขายอยู่ใน marketplace เหล่านี้:
The Dreamers collection บน ETH ถูกขายอยู่ใน marketplace เหล่านี้:
ฉันสามารถซื้อ Alpies ได้กี่ตัว และฉันสามารถมั่นใจได้อย่างไรว่าการขายจะตรงไปตรงมาและยุติธรรม
เรามีการวางระบบความปลอดภัยเพื่อป้องกันบอทและผู้ซื้อรายใหญ่เข้ามาทำลายระบบการขายที่ยุติธรรม เช่น:
สามารถซื้อได้สูงสุด 30 Alpies ต่อ 1 transaction
สามารถซื้อได้สูงสุด 90 Alpies ต่อ 1 wallet
ต้องรอ 5 นาที หลังจากมีการซื้อ Alpies 30 ตัว จาก wallet เดียวกัน
ฉันอยู่ใน whitelist ของ the Dreamers Alpies, ฉันต้องทำอย่างไรถึงจะได้ Alpies?
ทำตามขั้นตอนที่นี่:
Address สำหรับการโอนเหรียญบน ETH Mainnet: 0x2bfdacF6CdBC3ECcb95E68ec448ECf3d0693F732
Alpies ทำอะไรได้บ้าง?
นอกจาก Alpies จะใช้เป็นรูป profile picture ได้แล้ว Alpies จะมีควาสำคัญอย่างยิ่งใน play-to-earn game ของเรา ที่มีแผนจะเปิดให้เล่นในช่วง Q2 ของปี 2022
NFT เหล่านี้ถูกสร้างขึ้นโดยการสุ่มคุณสมบัติอละชิ้นส่วนต่างๆจากทั้งหมด 200+ ชิ้นส่วน ที่ถูกวาดขึ้นด้วยมือ โดยจะมีความหายากอยู่ 3 ระดับ ได้แก่ common, rare และ epic โดยชิ้นส่วนที่มีความหายากมากกว่า จะให้ค่าคุณสมบัติในเกมมากกว่า นอกจากนั้นยังมีคุณสมบัติเซ็ตของชิ้นส่วนบางอันที่ถ้าเกิดอยู่รวมกัน จะได้คุณสมบัติที่ดีขึ้นไปอีก
คุณจะต้องมี Alpies 3 ตัวในการเล่นเกม ถ้าหากคุณสามารถครอบครอง Limited Edition Alpies เหล่านี้ได้ คุณจะได้ประโยชน์ดังนี้:
ส่วนแบ่ง Presale ของเหรียญที่ใช้ใน Alpaca game ในอนาคต
คุณจะได้สิทธิ์ในการเพิ่ม leverage มากกว่าปกติ 50% บน Alpaca Finance
มีสิทธิ์เข้าร่วมการแจก Airdrop NFT ในอนาคต
คุณจะได้สิทธิ์เข้าร่วม Beta Access ของ Alpaca Game
คุณสมบัติในเกมจะสูงกว่า Alpies ทั่วไป
ได้รับ item พิเศษในเกมฟรี
สามารถทำ NFT breeding ที่คุณภาพสูงกว่าตัวอื่นๆได้
ได้สิทธิ์เข้าร่วม Discord พิเศษ (Illamanati สำหรับ Dauntless, Knights Tempaca สำหรับ Dreamers, และทั้งสองฝั่งสามารถเข้าร่วม The Paws That Be)
ได้รับสิทธิ์พิเศษสำหรับสินค้า Alpaca (Alpaca Physical Merch)
กำไรที่ได้จากการขายจะถูกใช้อย่างไร?
20% จากกำไรทั้งหมดจะถูกนำไปใช้เพื่อการ buyback and burn เหรียญ ALPACA
5% จะถูกนำไปใช้เพื่อการกุศล ในองค์กรที่ช่วยเหลืออัลปาก้าในชีวิตจริง
โดยการซื้อขาย Alpies ที่ NFT Marketplace จะถูกหักค่า royalty จำนวน 5% โดยครึ่งหนึ่งจะถูกนำไปใช้ buyback and burn
คุณสามารถตรวจสอบการ buyback and burn ได้ที่นี่.
เนื่องจากเราต้องการ 3 Alpies ในการเข้าเล่นเกม จะทำให้เกมมีผู้เล่นจำกัดเพียง 3,333 คนหรือไม่?
Alpies เหล่านี้จะให้สิทธิ์ในการเข้าร่วมเกมก่อนผู้เล่นคนอื่น (Beta access) โดยหลังจากที่เราเปิดให้ทุกๆคนเล่นพร้อมกันแล้ว เราจะมีระบบ breeding ที่จะต้องใช้ Alpies เหล่านี้ในการสร้าง Alpies generation ใหม่ที่จะมีคุณสมบัติน้อยกว่า limited Alpies โดยระบบ breeding สามารถสร้างรายได้ให้ผู้ถือ Alpies โดยการนำ Alpies ที่ถูกสร้างขึ้นมาไปขายให้ผู้เล่นคนอื่น โดยระบบนี้จะมีความคล้ายกับ Axie Infinity
อย่างไรก็ตาม สิทธิประโยชน์ที่ได้กล่าวมาจะเป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของ limited collection Alpies 10,000 ตัวนี้เท่านั้น โดย Alpies ที่เกิดจากระบบการ breeding จะสามารถใช้เล่นเกมได้ แต่จะไม่ได้รับสิทธิประโยชน์เหล่านี้
Alpies จะถูกแบ่งขายอย่างไร?
จากทั้งหมด 10,000 Alpies จะถูกแบ่งไปที่ BNB Chain และ ETH อย่างละ 5,000 ตัว โดยจะมีการแบ่ง 125 ตัวจากแต่ละ chain สำหรับการทดสอบระบบเกม, promotions, และ partnership
นอกเหนือจากนั้น เรามีการสร้าง Alpaca Team Alpies ที่จะถูกสร้างขึ้นมา 100 ตัวสำหรับทีมงานของเรา และเรายังมีการสร้าง honorary Alpies สำหรับผู้มีชื่อเสียงในวงการ NFT/Crypto ก่อนเปิดขาย แต่จำนวนทั้งหมดจะมีเพียงเล็กน้อยเท่านั้น โดย Alpies 2 อย่างนี้ จะไม่ได้ใช้ rarity distribution ร่วมกันกับ 10,000 ตัวหลักใน Alpies Collection
5,000 Dauntless Alpies ถูกขายไปจนหมด ในขณะที่ 2,306 Dreamers Alpies ถูกขายไป โดยที่เหลือ 2,694 Dreamers Alpies ได้ถูกแจกจ่ายให้ผู้ซื้อ Alpies คนอื่นๆ
จะต้องใช้ Alpies กี่ตัวในการเพิ่ม leverage 50%? การคำนวณจะเป็นอย่างไร? จะสามารถใช้ได้กับทุกๆ pool หรือไม่?
แค่ Alpies ตัวเดียวก็เพียงพอในการได้รับสิทธิ์เพิ่ม leverage 50% ได้กับทุกๆ farming positions ของ wallet ที่ถือ Alpies. ตรวจสอบแผนการทำงานของเราได้ที่นี่
50% leverage จะถูกนำไปคิดจาก leverage ทั้งหมด เช่น 2x->3x และ 3x->4.5x
โดย pool ส่วนใหญ่จะสามารถใช้การเพิ่ม leverage ได้ ยกเว้นแต่ pool ที่มี liquidity บน DEX น้อยเกินไป ซึ่งทำให้เกิดความเสี่ยงสูงเกินกว่าจะรับได้ และ pool ที่ได้ 6x อยู่แล้ว อาจจะได้ leverage ที่ถูกเพิ่ม น้อยกว่า 50% เพื่อความปลอดภัยและลดความเสี่ยง
เมื่อไหร่ที่ฉันจะเห็นการออกแบบของ Alpies ที่ฉัน mint? ฉันสามารถเปิดขาย Alpie บน marketplaces ได้เมื่อไหร่?
คุณสามารถดูการออกแบบของ Alpies ได้ที่นี่ https://alpies.alpacafinance.org/gallery
สำหรับ Dauntless Alpies คุณสามารถตรวจสอบความหายากของ Alpies ได้ที่ Fabboard https://fabboard.vercel.app/alpies
How can I see my Alpies in my wallet?
ALPIES contract addresses:
BNB Chain Dauntless: https://bscscan.com/token/0x57A7c5d10c3F87f5617Ac1C60DA60082E44D539e#balances
ETH Dreamers: https://etherscan.io/address/0x57A7c5d10c3F87f5617Ac1C60DA60082E44D539e
เพิ่ม Alpies token ไปใน Web3 wallet ของคุณ ถ้าหากคุณไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไร เรามีขั้นตอนการทำสำหรับ metamask เพียงใช้ contract address ข้างบนในการตั้งค่า Alpies และตั้งค่า decimal ให้เป็น 0 โดยสามารถดูวิธีทำได้ที่นี่
ถ้าหากคว่าคุณใช้ Web3 wallet นอกเหนือจาก metamask ขั้นตอนส่วนใหญ่ควรจะคล้ายกัน ซึ่งถ้าหากคุณไม่สามารถทำได้ ให้ลองค้นหาใน Google ว่า "how to add custom tokens to [WalletName]" และตรวจสอบให้ดีว่าวิธีทำที่คุณค้นหา มาจากเว็ปของ wallet ที่คุณใช้จริงๆ
รูปแบบการออกแบบของ Alpies จะไม่สามารถมองเห็นได้ จนกว่าจะจบการขายที่ ETH
จะมี presale ของเหรียญที่ใช้ใน game จำนวนเท่าไหร่ และผู้ถือ Alpie จะมีสิทธิ์เข้าร่วมซื้อหรือไม่?
Alpies ในแต่ละ wallet จะทำให้ wallet นั้นๆ สามารถได้รับส่วนแบ่งในการ presale ได้จำนวนหนึ่ง ซึ่งการที่ถือ Alpies มากขึ้น ทำให้ได้รับส่วนแบ่งในการ presale มากขึ้นตามจำนวนของ Alpies ใน wallet นั้นๆ
Automated Vaults
ทำไมผลกำไร/ขาดทุนที่แสดงถึงน้อยกว่า APYs ที่แสดงบน UI?
APY นั้นเปลี่ยนแปลงเสมอและขึ้นอยู่กับปัจจัยหลากหลายรวมไปถึงราคาโทเค็นของ DEX (เช่น CAKE, MDX), ค่าธรรมเนียมการแลกเปลี่ยนล่าสุดของแต่ละ pool, และดอกเบี้ยกู้ยืมล่าสุด ทั้งหมดนี้สามารถเปลี่ยนแปลงได้ นอกจากค่าธรรมเนียมการแลกเปลี่ยนที่เป็นค่าเฉลี่ย 7 วันแล้ว ตัวเลขข้างต้นนั้นแสดงแบบเรียลไทม์สำหรับ APY บน Automated Vaults และจะแม่นยำถ้าไม่เกิดการปรับสมดุล (rebalances)
ทุกครั้งที่เกิดการปรับสมดุลเพื่อความจำเป็นในการคงสภาพความเป็น market-neutral จะเกิดค่าใช้จ่ายเล็กน้อยสำหรับเงินทุนจากค่าธรรมเนียมการแลกเปลี่ยนและ IL จำนวนครั้งที่ปรับสมดุลไม่สามารถคาดคะเนได้อย่างแม่นยำเพราะมันขึ้นกับความผันผวนของตลาด ความผันผวนของราคาสินทรัพย์อาจทำให้เกิดการปรับสมดุลหลายครั้งในเวลาอันสั้นซึ่งจะทำให้เงินทุนลดลงชั่วคราว คุณสามารถตรวจสอบผลประกอบการย้อนหลังในหน้าการลงทุนเพื่อดูความผันผวนที่เกิดขึ้นชั่วคราวในอดีตบนกราฟ P/L backtest ค่า Maximum Drawdown จะแสดงถึงการด้อยค่าที่มากที่สุดจากข้อมูลในอดีตในแต่ละช่วงเวลา
จำไว้ว่า position บน market-neutral Automated Vault เป็นการลงทุนระยะยาว ให้คิดว่าเป็นการลงทุนคล้ายอสังหาริมทรัพย์ และไม่ใช่การลงทุนใน memecoin คุณไม่ได้เช็คราคาของบ้านคุณทุกวัน ดังนั้นเราแนะนำให้ตรวจสอบ positions ของ AV เป็นรายเดือนหรือรายสัปดาห์ที่ซึ่งความผันผวนระยะสั้นจะไม่ดำเนินต่อ ไม่ใช่รายวัน
APYs จะไม่ลดลงอีกหรือเมื่อมีการเพิ่ม vaults ที่มีคู่เหรียญเดียวกันมากขึ้น?
ถึงแม้ว่า yield จะลดลงเมื่อ TVL มากขึ้น แม้จะเป็นก่อนที่ความจุของ Automated Vaults ที่มีคู่เหรียญเดียวกันจะเพิ่ม ทีมเราได้ทำการวิเคราะห์อย่างละเอียดเพื่อที่จะคาดคะเนระดับ APY ใหม่แล้วทำให้แน่ใจว่ามันจะน่าดึงดูดสำหรับ farmers
ยิ่งไปกว่านั้น เราได้ใช้งานอัตราดอกเบี้ยกู้ยืมแบบคงที่สำหรับ Automated Vaults เพื่อให้ง่ายต่อการคาดคเนและการดำเนินการที่คงที่ เพื่อความเรียบง่ายในการเปิดใช้งานในช่วงเริ่มต้นเราจะใช้อัตราดอกเบี้ยกู้ยืมแบบคงที่สำหรับอัตราการใช้งานทุกระดับ อย่างไรก็ตามในอนาคตเราอาจมีการปรับอัตราดอกเบี้ยให้สูงขึ้นเมื่อมีอัตราการใช้งานที่สูงเพื่อกระตุ้นให้ผู้จัดการคืนเงินกู้บางส่วน เนื่องจาก vault มีความจุที่จำกัดในตอนเริ่มต้นตอนนี้จึงยังไม่มีปัญหา
อะไรคือความเสี่ยงที่เกิดจาก Automated Vaults?
คุณสามารถพิจารณาความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับ Automated Vaults และ Alpaca Finance ได้ที่นี่
ทำไมถึงไม่มี Automated Vaults สำหรับโทเค็น ALPACA?
สิ่งที่จำเป็นสำหรับ Automated Vaults คือคู่เหรียญคริปโตที่มีสภาพคล่องสูงและปริมาณการแลกเปลี่ยนที่สูงเพื่อป้องกันกลยุทธ์จากการควบคุมทางราคา ซึ่งมีแค่เหรียญ stablecoins ระดับท๊อปแล้วเหรียญคริปโต (BTC, ETH, BNB, FTM, ฯลฯ) ที่เข้าค่ายเกณฑ์นี้ ณ ตอนนี้
ทำไมถึงมี pool เดียวกันหลาย Vaults?
Automated Vaults จำเป็นที่จะต้องปรับสมดุลเป็นประจำเมื่อการเคลื่อนไหวของราคาสินทรัพย์เบี่ยงเบนเลยจุด market-neutral ตามที่กลยุทธ์ตั้งเป้าไว้ การแลกเปลี่ยนสินทรัพย์จำเป็นในการปรับสมดุล เพราะฉะนั้นเพื่อให้ผลกระทบทางราคาอยู่ในระดับที่รับได้ เราจำเป็นต้องจำกัดขนาดของแต่ละ pool
คำนวณ management fee 2% สำหรับ AV ยังไง?
2% ไม่ได้คำนวณจากเวลาผู้ใช้งานฝากทั้งหมด มันไม่ใช่ deposit fee 2% ของ management fee จะคำนวณจากเงินทุน, 2% นั้นจะถูกคำนวณตามสัดส่วนของปี ดังนั้นถ้าคุณ farm เป็นเวลา 1 เดือน ระหว่างเดือนนั้น management fee จะเป็น 1 / 12 * 2% = 0.17%
วิธีการคือการผลิตโทเค็นเพิ่มผ่าน contract ยกตัวอย่างเช่น มี 100 ส่วนแบ่งใน pool ผ่านไป 1 วันหลังจากการเก็บ management fee ครั้งล่าสุด โปรโตคอลจะคำนวณดังนี้
ส่วนแบ่งใน pool ที่กำหนัด = 100 ส่วน เวลาที่ผ่านไปหลังจากการเก็บ management fee ครั้งล่าสุด: 1 วัน อัตราค่าบริการ Management fee: 2% / ปี = 0.005479% วัน ส่วนแบ่งที่จะผลิต = 0.005479% * 100 ส่วน = 0.005479 ส่วนจะถูกผลิตขึ้นเพื่อเป็น management fee
อะไรจะเกิดขึ้นเมื่อผู้ใช้งานลงทุนใน Automated Vault?
Alpaca จะคำนวณขนาดที่จำเป็นสำหรับ positions การ short และ long สำหรับ market-neutral รวมไปถึงจำนวนที่สินทรัพย์ที่กู้ยืมเป็นเท่าไหร่
Alpaca จะดำเนินธุรกรรมกู้ยืมและวางสภาพคล่องเข้าไปใน positions บน DEX ซึ่งจะได้กลับมาเป็นโทเค็น LP
เพื่อความปลอดภัย Alpaca จะตรวจว่ามูลค่าของโทเค็น LP ที่ได้รับ (มูลค่า position ที่ควรจะเป็น) จะไม่เบี่ยงเบนมากเกินไปจากตัวเลขที่คำนวณไว้ก่อนเพื่อลดการคลาดเคลื่อนหรือความแตกต่างจากราคา Oracle ถ้าเกิดการเบี่ยงเบนมากเกินไป ธุรกรรมจะย้อนกลับ (ค่าเบี่ยงเบนที่สามารถรับได้มากที่สุดสำหรับ 8x คือ 1.2%) ถ้าไม่มีปัญหาอะไร กระบวนการจะดำเนินต่อไป
Alpaca จะ stake โทเค็น LP เพื่อรับรางวัลโทเค็นจาก DEX
โทเค็นส่วนแบ่งของ Automated Vault (เช่น n8x-BNBUSDT-PC1) ที่สอดคล้องกับเงินทุนของผู้ใช้งานใน pool ของ Automated Vault จะถูกผลิตและส่งให้ผู้ใช้งานตามหน่วยเงินลงทุน ซึ่งสามารถใช้หรือแลกเปลี่ยนในอนาคตได้
ทำไมถึงต้องมี withdrawal fee 0.3% ใน Automated Vaults?
ค่าธรรมเนียมการถอน (withdrawal fee):
ครอบคลุมค่าใช้จ่ายในการปรับสมดุลและดูแล Automated Vaults ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายที่สูงมาก
ป้องกันจากผู้ไม่ประสงค์ดีเพราะพวกเขาไม่สามารถเข้าๆออกๆโดยไม่จ่ายค่าธรรมเนียมได้
เป็นการส่งเสริมให้ถือ positions ระยะยาว ซึ่งจะเป็นผลดีต่อแพลตฟอร์มและผู้ลงทุนใน Automated Vaults ที่ขาดความเข้าใจเกี่ยวกับความผันผวนในระยะสั้นที่ส่งผลกระทบต่อผลกำไร/ขาดทุน
สอดคล้องกับระนาบธุรกิจ Trancess, Beefy, Autofarm, และแพลตฟอร์มอื่นๆมี withdrawl fees เพราะเหตุผลคล้ายๆกัน
จะเป็นการดีที่สุดไหมในการฝากโทเค็นในสัดส่วน 50:50 เพื่อลด swap fees ในการลงทุนบน Automated Vault?
เนื่องด้วยการเพิ่มขนาดตามธรรมชาติของ Automated Vaults จะเกิดการแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ทุกครั้งที่เปิด position ซึ่งสามารถเรียกได้ว่าเป็นค่าเข้าใช้งาน แต่คุณสามารถลดค่าธรรมเนียมในการแลกเปลี่ยนโดยการฝากตามสัดส่วนข้างต้น: 3x: มากกว่า 25% ของมูลค่าที่นำไปฝากเป็นสินทรัพย์ผันผวน (เช่น BNB) 8x: มากกว่า 45% ของมูลค่าที่นำไปฝากเป็นสินทรัพย์ผันผวน
ทำไมถึงมูลค่ารวมที่ล็อคอยู่บน AV ถึงมากกว่าปริมาณที่บรรจุได้
มูลค่าที่เกิดมาคืนกำไรจากนักลงทุนที่ลงทุนอยู่
ทำไมฉันถึงเปิด Automated Vault position ด้วยกระเป๋า multi-sig ไม่ได้?
ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย เราอนุญาติให้กระเป๋า multi-sig ที่ได้ทำการ whitelist แล้วเท่านั้นที่จะสามารถเปิด LYF หรือ AV position ได้ โปรดส่งแอดเดรสของคุณมาที่ requests@alpacafinance.org เพื่อรับการ whitelist
1x long เป็นการระบุเป้าหมายว่าการทำงานของ vault จะอยู่ประมาณนี้ ซึ่งอาจมีการเพิ่มขึ้นถึง 4x หรือ 6x เพื่อความชัดเจนว่าทำไมถึงเป็นกรณีนี้:
ด้วยธรรมชาติของ Concentrated Liquidity (CL) บน UNIv3 ความเสี่ยงทางราคานั้นจะค่อนข้าง "สุดขั้ว" กว่าที่เคยเป็นใน AV เวอร์ชั่นก่อนๆ สิ่งนี้เกิดจากวิธีการที่ CL ทำงาน เมื่อราคาขยับเข้าหาด้านข้างของระยะ LP ที่ตั้งไว้ คุณจะมีสัดส่วนสินทรัพย์ส่วนใหญ่เป็นชนิดเดียว (และจะมีสินทรัพย์ชนิดเดียวเมื่อเลยระยะ LP) ซึ่งจะตรงข้ามกับ UNIv2 ที่ซึ่งความเสี่ยงทางราคาจะเกิดขึ้นเล็กน้อยเมื่อราคาขยับเพราะว่าคุณให้สภาพคล่องตั้งแต่ 0 ถึงอินฟินิตี้
ดังนั้นในบางกระณีสำหรับ BNB Savings จะเห็นได้ว่าจะมีกรณีที่ความเสี่ยงทางราคาฝั่ง Long บน BNB ค่อนข้างสูงนั้นไม่ได้เกิดจากการพนันด้วย leverage แต่เกิดจากความเสี่ยงทางราคาจากการที่ราคาของ BNB เคลื่อนไหว
ทำไม vault ถึงไม่ลดความเสี่ยง?
คำตอบสั้นๆคือเพราะว่าโมเดลมีการคาดคเนที่สูงว่าจะเกิดการที่ราคาเด้งกลับ ซึ่งเป็นปกติสำหรับกลยุทธ์ market making
น่าเสียดายที่ กฎการ rebalance/ลดความเสี่ยง เมื่อราคามีการผันผวนเกินกว่าระยะราคานั้นไม่สามารถสร้างกำไรได้ ซึ่งชัดเจนแล้วจากเวอร์ชั่นแรกของ automated vault ของเรา เราได้ใช้วิธีนี้แต่มันไม่อาจทำกำไรได้ และนั่นเป็นเหตุผลที่เราหยุดและพัฒนาขึ้นมาเป็น AVv2 มีผลิตภัณฑ์มากมายที่พยายามจัดการ โพซิชั่น LP บน UNIv3 ด้วยกฎการ rebalance แบบอัตโนมัติ ซึ่งผลิตภัณฑ์เหล่านั้นก็ไม่ได้กำไรเช่นกันซึ่งเห็นได้จาก 1) การที่ไม่มีเจ้าไหนที่แสดงผลประกอบการในอดีต แต่แสดงเฉพาะ APR% ในปัจจุบัน หรือ 2) มี TVL จำนวนน้อยใน vault ที่ไม่ใช่คู่เหรียญ stablecoin
อย่างไรก็ตาม เราได้ตั้งพารามิเตอร์เพื่อความปลอดภัยเผื่อไว้ และถ้าราคา BNB นั้นมีค่าลดลงเรื่อยๆ เราจะค่อยๆลดเความเสี่ยงของ vault
Bridge
Alpaca Finance เชื่อมต่อกับโปรโตคอล Bridge ไหน?
Bridging วิดเจ็ต บนเว็บไซต์ Alpaca Finance นั้นเชื่อมต่อกับ LI.FI ซึ่งเป็นโปรโตคอลการ Bridge ชั้นนำ ด้วยวิดเจ็ต นี้คุณสามารถส่งสินทรัพย์เข้ามาเครือข่ายของ Alpaca เพื่อฝากแล้วเริ่มรับผลตอบแทนได้
การใช้ Bridge ปลอดภัยหรือไม่?
LI.FI ให้บริการการ bridge ที่รวมจากหลายๆที่ซึ่งเป็นที่น่าเชื่อถือและถูกใช้โดยหลายๆโปรโตคอลชั้นนำ LI.FI นั้นได้ผ่านการตรวจสอบโดย Quantstamp และ Code4rena
ค่าธรรมเนียมในการใช้บริการ Bridge คิดยังไง?
ค่าธรรมเนียมที่ถูกเก็บทั้งหมดระหว่างกระบวนการ Bridge นั้นจะถูกเก็บโดยโปรโตคอลที่ทำการ Bridge โดยที่ Alpaca Finance ไม่มีการคิดค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมกับผู้ใช้งาน
Last updated