AIP-5: การปรับโมเดลอัตราเงินกู้
Last updated
Last updated
ตอนเราปล่อย ALPACA ในเดือนมีนาคม 2021 ตลาดนั้นอยู่ในช่วงขาขึ้น
ซึ่งเป็นตลาดที่มีความต้องการของตลาดสูงและดอกเบี้ยก็เยอะเช่นกัน จะเห็นได้ว่าดอกเบี้ยบน DEXes (ที่ไม่ทำการ leverage) บน BNB Chain จะอยู่ที่ 50% - 100% APR สำหรับ pools ส่วนใหญ่ อย่างไรก็ตามดอกเบี้ยเหล่านี้ตกลงเรื่อยๆเมื่อมีเงินทุนเข้ามาในตลาดและเหรียญจากการฟาร์มอย่าง CAKE ด้อยค่าลง
วันนี้ฟาร์มหลักๆส่วนใหญ่ให้ผลตอบแทนต่ำกว่า 15% APR (ณ วันที่ 29 มีนาคม 2022)
PCS BNB-USDT: 15.01%
PCS BNB-BUSD: 13.94%
MDEX BNB-BUSD: 10.31%
MDEX ETH-USDT: 13.31%
สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่าอย่างไรสำหรับโมเดลเงินกู้ของเรา? อัตรา 20% ใน slope2 นั้นสูงเกินไปสำหรับดอกเบี้ยในสภาพแวดล้อมปัจจุบันและจะมีคนกู้เงินน้อยมากที่ 20% เพราะมันไม่คุ้มสำหรับการฟาร์มแบบ leveraged yield ด้วยอัตราเงินกู้นี้
เป็นผลให้อัตราการใช้งานใน lending pools ไม่ค่อยเกิน ~40% (อัตราเงินกู้ = 15% ที่ อัตราการใช้งาน 40%) นี่เป็นหลักฐานใน pools หลักๆที่อัตราการใช้งานอยู่ระหว่าง 30% - 40% ก่อนที่ Automated Vault จะปล่อย ทำให้มีเงินทุนที่ไม่ถูกกู้เยอะ ทำให้ผู้ปล่อยกู้ได้รับ APY น้อยลง
เราเชื่อว่าการทำให้ "สมดุล" มีประสิทธิภาพมากขึ้นจะสำเร็จได้โดยการลดอัตราเงินกู้ที่ slope2 ซึ่งจะทำให้อัตราการใช้งานเงินกู้สูงขึ้น ในขณะเดียวกันยังให้รายได้เท่าเดิมหรือมากขึ้นกับผู้ปล่อยกู้
ตัวอย่าง:
สถานการณ์ | อุปทาน (USD) | ถูกกู้ไป (USD) | อัตราเงินกู้ | ดอกเบี้ยที่จ่ายต่อปี (USD) | APR ของผู้ปล่อยกู้ |
---|---|---|---|---|---|
สถานการณ์ 1 | 100 | 30 | 10% | 3 | 3% |
สถานการณ์ 2 | 100 | 50 | 9% | 4.5 | 4.5% |
จะเห็นได้จากตัวอย่างข้างต้น ด้วยอัตราการใช้งานเงินกู้ที่มากขึ้น ผู้กู้จะได้อัตราเงินกู้ที่ถูกลง (10% -> 9%) ในขณะเดียวกันผู้ปล่อยกู้ก็ได้ดอกเบี้ยที่มากขึ้น (3% -> 4.5%)
คำถามต่อมาคือ: เราจะทำให้มั่นใจได้ยังไงว่าจะมีปริมาณอุปสงค์ในการกู้ยืมมากขึ้นเพื่อที่จะเพิ่มอัตราการใช้งานเงินกู้ เพื่อทดแทนกับอัตราเงินกู้ที่น้อยลง
ในขณะที่ทีมของเราปรึกษาเกี่ยวกับปัญหานี้ภายในในอดีต คำถามข้างต้นเป็นหนึ่งในเหตุผลที่เรายังไม่ลดอัตราเงินกู้ Slope2 จนถึงตอนนี้ เพราะไม่มีหลักประกันว่าการเปลี่ยนอัตราเงินกู้จะทำให้อุปสงค์มากขึ้น
ถ้าไม่มีอุปสงค์ในการกู้ยืม ผู้ปล่อยกู้และโปรโตคอลของเราจะได้รับรายได้ที่น้อยลง ซึ่งจะทำให้ผู้ปล่อยกู้ถอนเงินออก ซึ่งจะทำให้เป็นวงจรอุบาทว์ที่ทำให้ TVL ของโปรโตคอลหายไปอย่างมาก
จริงๆแล้ว เราพยายามแล้วใน Q3 ของปี 2021 โดยการเลื่อนจุดเริ่มต้นของ Slope2 จาก อัตราการใช้เงินกู้ที่ 50% เป็นอัตราการใช้เงินกู้ที่ 60% เพื่อที่จะให้ผู้กู้เปิด positions มากขึ้น แต่ก็ยังไม่มีผลกระทบที่มากพอ ทำให้เราเลิกใช้วิธีนี้
ด้วยการเปิดตัว Automated Vaults สถานการณ์ได้เปลี่ยนไปแล้ว เราเห็นอุปสงค์จากชุมชนในการใช้งาน Automated Vaults ที่มากขึ้น ด้วย TVL ที่มากที่สุดที่ 8x ต่อ pool ถูกเติมเต็มอย่างรวดเร็วภายในไม่กี่ชั่วโมงหลังการปล่อย
ดังนั้นด้วย Automated Vaults เรามีความมั่นใจอย่างสูงว่าเราจะทำให้ระบบได้รับการเพิ่มขึ้นของอัตราการกู้เงินที่มากขึ้นซึ่งจะทำให้ผู้ใช้งานทุกคนในระบบได้รับผลประโยชน์
การปรับโมเดลเงินกู้จะทำให้ได้รับผลประโยชน์หลักๆ 5 ประการ
APY ที่มากขึ้นสำหรับผู้ปล่อยกู้
การลดอัตราเงินกู้สำหรับผู้กู้
รายได้ของโปรโตคอลที่มากขึ้น
เพิ่มความจุสำหรับ Automated Vaults
การเพิ่มของอัตราการใช้เงินกู้ซึ่งจะทำให้แพลตฟอร์มมีความเสถียรมากขึ้น
เราเสนอโมเดลอัตราเงินกู้สำหรับสินทรัพย์แต่ละอย่างดังนี้:
Slope2 Kink: อัตราการใช้งานเมื่อ Slope2 เริ่มต้น
อัตราเงินกู้ Slope2: อัตราเงินกู้สำหรับ Slope2 (ส่วนที่เป็นเส้นตรงแนวนอน)
สินทรัพย์ | Slope2 kink | อัตราเงินกู้ Slope2 | APYs สำหรับผู้ปล่อยกู้ที่ Slope2 |
---|---|---|---|
BNB | 85% | 12.5% | ~ 10% - 12% |
BUSD | 85% | 12.5% | ~ 10% - 12% |
USDT | 85% | 12.5% | ~ 10% - 12% |
BTC | 85% | 7.5% | ~ 6% - 7% |
ETH | 85% | 7.5% | ~ 6% - 7% |
USDC | 85% | 10.0% | ~ 8% - 10% |
จากที่เห็นได้ข้างต้น ถ้าเราเพิ่มอัตราการใช้งานในส่วนของ Slope2 ให้กับโมเดล ผู้ปล่อยกู้จะได้รับผลประโยชน์มากขึ้นจาก APYs สำหรับผู้ปล่อยกู้ที่มากขึ้น
เราจะไม่ทำการปรับทีเดียวทั้งหมด แต่เราจะปรับ slope เรื่อยๆสำหรับแต่ละโทเค็นเราจะเพิ่มคู่เหรียญใหม่สำหรับ Automated Vault ด้วยวิธีนี้เราสามารถทำให้มั่นใจได้ว่าผู้ปล่อยกู้และรายได้ของแพลตฟอร์มจะไม่ถูกส่งผลกระทบด้านลบจากการเปลี่ยนแปลงนี้ ทีมของเราจะได้รับสิทธิ์ในการปรับโมเดลอัตราเงินกู้ในระยะข้างต้น ยกตัวอย่างเช่น slope2 kink สำหรับ BNB จะไม่มีทางเกิน 85% และอัตราเงินกู้สำหรับ slope2 จะไม่ถูกปรับให้น้อยกว่า 12.5%
แผนภูมิด้านล่างแสดงให้เห็นว่า slope2 ของอัตราเงินกู้จะเปลี่ยนยังไง พารามิเตอร์ต่างๆจะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยในเวลานั้นๆ - เช่น TVL, APR, ฯลฯ
ข้อเสนอครั้งนี้เป็นการโหวต ใช่ หรือ ไม่
ชุมชมได้โหวตให้ปรับโมเดลเงินกู้