กลยุทธ์ที่ 5: สร้างกำไรจาก Yield Farm ในตลาดหมี (Bear Market)

ในช่วงตลาดขาลง คุณจะรู้สึกได้ถึงความจริงที่แสนเจ็บปวดเมื่อคุณใช้ DeFi protocol ส่วนใหญ่ นั่นก็คือ คุณกำลังสูญเสียเงินของคุณ

ในโลกของ DeFi ขณะนี้ 95% ของ protocol มีผลิตภัณฑ์ที่เป็นฝั่ง long แค่อย่างเดียว หมายความว่าเงินทุนของคุณหรือทรัพย์สินของคุณนั้นจะเติบโตไปพร้อมกับตลาดที่เป็นขาขึ้น แต่ปัญหาก็คือตลาดขาลงนั้น สามารถทำให้คุณสูญเสียได้อย่างมหาศาลในชั่วเวลาข้ามคืน

ถ้าหากลองยกตัวอย่างเช่น LP position ของ DEX ชั้นนำอย่าง Uniswap, PancakeSwap, หรือ Sushi จะเห็นว่าทรัพย์สินของคุณนั้นมี long exposure ซึ่งก็เหมือนกับ lending protocol อย่างเช่น Venus, Aave, และอื่นๆ โดยเมื่อราคาของทรัพย์สินสูงขึ้น คุณจะมีความสุขกับผลตอบแทนที่คุณได้ แต่เมื่อราคาตกลง คุณจะได้สัมผัสความทรมานในตลาดหมี (bear market)

ในตลาดขาลงนั้น คุณจะสังเกตได้ว่าผลตอบแทนจากการฟาร์ม ไม่สามารถชดเชยการสูญเสียของคุณที่เกิดขึ้นจากราคาทรัพย์สินที่ลดลง ซึ่งยิ่งคุณพยายามจะหากำไรจากการฟาร์มเท่าไรก็ไม่มีทางเพียงพอ คำถามคือ แล้วคุณจะทำอะไรได้?

DeFi protocol ส่วนใหญ่จะไม่มีผลิตภัณฑ์ที่สามารถชดเชยความเสียหายเหล่านั้นได้ ซึ่งอันที่จริงแล้ว นี่เป็นปัญหาของ DeFi ecosystem มาแต่ไหนแต่ไร — ความไม่มั่นคงในช่วงตลาดขาลง

แล้วยังไงต่อ? คุณควรจะเลิกฟาร์มหรือไม่? และถือ stablecoins เพื่อได้รับผลกระทบจากอัตราเงินเฟ้อที่มีแต่ทำให้มูลค่าลดลงเรื่อยๆหรือไม่? นี่คือสิ่งที่คนส่วนใหญ่ทำในช่วงต้นปี 2018

การกระทำเหล่านี้เป็นการบอกลาผลตอบแทนอัตราสูงที่คุณได้จากการฟาร์มที่เป็นสิ่งที่การเงินแบบปกติ (Traditional Finance) ให้คุณไม่ได้ คุณพร้อมแล้วหรือที่จะรับอัตราผลตอบแทนเพียง 3% ซึ่งน้อยกว่าอัตราเงินเฟ้อด้วยซ้ำ

แต่โชคดีสำหรับคุณที่ยังมีสถานที่ที่ให้คุณได้รับผลตอบแทนจากการฟาร์มในภาวะตลาดขาลง ซึ่งที่นั้นก็คือ Alpaca Finance

Alpaca แตกต่างจากผลิตภัณฑ์อื่นๆตรงที่คุณสามารถสร้างผลตอบแทนจากการฟาร์มในทุกๆสภาพตลาด ถ้าหากคุณศึกษาและเข้าใจอย่างถ่องแท้ โดยสำหรับบทความนี้ เราจะสนใจการสร้างผลตอบแทนในตลาดหมี

ในการทำ yield farming ที่ Alpaca คุณไม่จำเป็นต้องถือ long position เสมอไป คุณสามารถทำ yield farm ใน DEX เช่น PancakeSwap และกำหนด exposure ของคุณได้ไม่ว่าจะเป็น long, short, หรือ neutral โดยในบทความนี้และบทความอื่นๆ เราได้แนะนำหลักการของการ long โดยผลตอบแทนของคุณจะมีทิศทางเดียวกับสภาพตลาด และการ short ที่ผลตอบแทนของคุณจะสวนทางกับตลาด ซึ่งจะเป็นวิธีการที่คุณสามารถทำกำไรได้ในตลาดหมี (คุณสามารถศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับการ short ได้ที่นี่)

เนื่องจากเราได้แนะนำพื้นฐานไปแล้ว เราจะขออธิบายเกี่ยวกับการฟาร์มในตลาดหมีอย่างละเอียดข้างล่าง และถ้าหากคุณต้องการจะศึกษาอย่างละเอียด เราขอแนะนำให้คุณอ่านกลยุทธ์ที่ 4 เสียก่อน โดยเราได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการทำ leveraged yield farming และการคำนวณ long และ short exposure ตั้งต้นสุทธิ

วิธีการ Yield Farming แบบ Short Position

ในช่วงตลาดขาลงนั้น ทรัพย์สินส่วนใหญ่จะมีราคาลดลง ซึ่งที่จริงแล้วกลยุทธ์นี้เน้นเกี่ยวกับเหรียญซักเหรียญที่คุณมองว่าจะมีราคาลดลง จึงทำให้ถึงแม้ว่าตลาดจะเป็นตลาดกระทิง แต่ถ้าหากคุณมองว่าราคา ETH จะลดลง คุณก็สามารถ short ETH ได้บน Alpaca Finance โดยการเปิด leveraged yield farming position โดยกู้ ETH (เราแค่ยกตัวอย่าง ETH ณ ไว้ที่นี้ ไม่ได้มีเจตนาร้ายๆต่อ ETH จริงๆ 😢)

ตัวอย่าง: การเปิด position ETH-stablecoin โดยกู้ ETH และเลือกมากกว่า 2x leverage

คุณสามารถเปิด position ETH-USDT โดยการฝากเหรียญมูลค่า $10,000 (preferably USDT to reduce swap costs), and borrow $20,000 worth of ETH (3x leverage) เนื่องจาก LP positions จำเป็นต้องมีอัตราส่วน 50:50 ระหว่างเหรียญทั้งสอง หลังจากที่เปิด position Alpaca จะทำการแลก ETH มูลค่า $5000 เป็น USDT ทำให้มี ETH มูลค่า $15,000 + USDT มูลค่า $15,000​ โดย exposure ของคุณจะเป็น:

  • Long $15,000 ใน ETH

  • Long $15,000 ใน USDT

  • Short $20,000 ใน ETH ⇐ เหรียญที่กู้

โดยสุทธิแล้ว exposure ตั้งต้นคือ short $5000 ใน ETH (ศึกษาเกี่ยวกับการคำนวณเพิ่มได้ที่กลยุทธ์ที่ 4) โดยในส่วนของ USDT ซึ่งเป็น stablecoin นั้น long/short exposure จะไม่มีผล

คุณจะสามารถสร้างผลตอบแทนจากการฟาร์มได้ 3เท่า ของอัตราปกติด้วย ETH-USDT position และยังได้รับผลตอบแทนในกรณีที่ราคาของ ETH ลดลง ซึ่งทำให้คุณไม่ได้รับความเสียหายในตลาดหมีและได้รับผลตอบแทนจากการทำ yield farming ตลอดทั้งปี

เมื่อคุณใช้มากกว่า 2x leverage คุณจะมี short exposure เล็กน้อยในเหรียญที่คุณกู้

เมื่อเทียบกับ long position แล้วนั้น short position จะมี exposure น้อยกว่า โดบที่ 3x ของ short position จะให้ exposure เป็น 1/3 ของ long position ซึ่งหมายถึงโอกาสในการถูกบังคับขาย position (liquidate) จะน้อยมากเมื่อคุณ short

คุณจะได้กำไร หรือขาดทุนเท่าไหร่ เมื่อราคาของเหรียญมีการเปลี่ยนแปลง?

เมื่อเหรียญใน LP position มีราคาที่เปลี่ยนไป DEX จะทำการปรับสมดุลทรัพย์สินโดยการทำงานของ AMM ยกตัวอย่างเช่น ETH-USDT ซึ่งถ้าราคาของ ETH สูงขึ้น position จะมี ETH น้อยลง และ USDT มากขึ้น ซึ่งนำมาสร้างเป็นกราฟได้ตามข้างล่างนี้ ซึ่งแสดงการเปลี่ยนแปลงของทรัพย์สินของคุณเมื่อราคาของ ETH (เหรียญที่กู้) เปลี่ยนไป. (คุณไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับการทำงานของ AMM แต่ถ้าหากคุณสนใจ สามารถศึกษาได้ที่ Alpaca Academy)

ในตัวอย่างนี้ เหรียญที่ไม่ได้กู้จะเป็น USDT ที่จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงราคา ทำให้คุณสามารถใช้เส้นสีเขียวเป็นตัวอย่าง แต่ในกรณีอื่นๆที่เหรียญที่ไม่ได้กู้เป็น BNB, BTCB หรือทรัพย์สินอื่นๆที่มีการเปลี่ยนแปลงราคา คุณสามารถใช้เส้นอื่นๆในการเทียบได้

เส้นสีต่างๆมีการคิด yield farming APR + ค่าธรรมเนียมการแลกเปลี่ยน APR ที่ 1x leverage เป็น 25%, ดอกเบี้ยการกู้ APR เป็น 15%, รางวัลจาก Alpaca APR เป็น 10 และระยะเวลาการฟาร์ม 90 วัน

ข้อสังเกตจากกราฟคือ:

  • เส้นประสีดำแสดงถึงมูลค่าทรัพย์สินของคุณถ้าหากคุณถือ stablecoins ไว้เฉยๆ

  • ถ้าหากราคาของทรัพย์สินที่กู้ไม่มีการเปลี่ยนแปลง เช่นคุณมีการกู้ stablecoins ก) ถ้าหากไม่คิดถึงผลตอบแทนจากการฟาร์ม ทรัพย์สินของคุณจะเป็นไปตามเส้นสีดำ โดยถ้าราคาของ ETH ลดลง คุณจะได้กำไร เพราะคุณมี short position ใน ETH ข) ถ้าหากคำนึงถึงผลตอบแทนจากการฟาร์มแบบ 3x(เส้นสีเขียว) ทรัพย์สินของคุณจะสูงยิ่งขึ้น

  • ถ้าหากทรัพย์สินที่ไม่ได้กู้มีการเปลี่ยนแปลงราคา (เช่นถ้าหากคุณเปิด ETH-BNB position เหมือนตัวอย่างที่สองข้างบน) กราฟจะมีการเปลี่ยนแปลง

  • กราฟนี้แสดงตัวอย่างสำหรับ position 90 วัน ซึ่งการถือ position นานขึ้น จะทำให้คุณได้รับผลตอบแทนจากการฟาร์มมากขึ้ยไปอีก และอาจทำให้กราฟสูงกว่าเส้นประด้วยซ้ำ

คุณสามารถทดสอบการคำนวณต่างๆเหล่านี้ได้ใน Yield Farming Calculator

ความเสี่ยงในการถูกบังคับขายเพื่อใช้หนี้ (liquidation)

ความเสี่ยงในการเกิด liquidation สำหรับ short position จะน้อยกว่า long position แต่ก็ควรจะระวังไว้เสมอถ้าหากคุณใช้เหรียญอื่นๆที่ไม่ใช่ stablecoin มาเป็นเหรียญที่ไม่ได้กู้ใน position

ที่ 3x leverage อัตราส่วนระหว่างเหรียญที่ไม่ได้กู้ เทียบกับเหรียญที่กู้ (BUSD/ETH หรือ BNB/ETH) จะสามารถลดลงได้ 36% ก่อนที่จะเกิด liquidation (สมมุติให้ Liquidation Threshold เป็น 83.3%)

ถ้าหากคุณเปิด position โดยไม่ได้กู้ stablecoin แต่กู้ทรัพย์สินอื่นๆ เช่น BNB-ETH เมื่อมีการใช้มากกว่า 2x leverage จะต้องระวังราคาของทรัพย์สินที่ไม่ได้กู้ลดลง และราคาของทรัพย์สินที่กู้เพิ่มขึ้น เนื่องจากสิ่งเหล่านี้สามารถทำให้เกิด liquidation ได้ ศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับ liquidation ได้ที่ Alpaca Academy Lesson 3.

สรุปแล้ว เมื่อคุณเปิด farming position มากกว่า 2x leverage คุณจะ short ในเหรียญที่คุณกู้มา นี่เป็นวิธีหนึ่งในไม่กี่วิธีในการทำกำไรจากการฟาร์มในตลาดหมี

โดยปกติแล้ว เราแนะนำให้ใช้ stablecoin เป็นเหรียญที่ไม่ได้กู้ และกู้เหรียญอื่นๆที่คุณคิดว่าราคาจะลดลง (เช่น BNB, ETH, หรือ BTCB).

สุดท้ายนี้ ถึงแม้ทุกคนจะเกลียดตลาดหมี แต่นักลงทุนที่เชียวชาญสามารถทำกำไรได้ในทุกๆสภาพตลาด ในขณะที่นักลงทุนมือใหม่ไม่สามารถทำอะไรได้ในตลาดหมี หรืออาจจะสูญเสียด้วยซ้ำ

บทความนี้น่าจะเพียงพอสำหรับการทำให้คุณใช้ Alpaca Finance ในการทำกำไรในตลาดหมีได้โดยการคลิกไม่กี่ครั้ง ซึ่งทำให้คุณไม่สนใจว่าจะเป็นตลาดหมีหรือกระทิง เพราะคุณสามารถฟาร์มใน At that time, while others are chirping on crypto twitter about the market state, you’ll be thinking to yourself, “Bull? Bear? Screw all that noise. I’m an alpaca…and that means whether grass fields or DeFi yields, I’m always in the green.”

Last updated