〰️กลไกการรักษาความเสถียรในราคาของ AUSD (AUSD Price Stability Module)
จากการตัดสินใจใน AIP-25 AUSD ได้ถูกนำออก โพซิชั่น AUSD ที่เหลือได้ถูกบังคับปิดในวันที่ 17 ตุลาคม คุณสามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่บทความ การนำ AUSD ออก & แผนการย้าย AF1.0 ชุดแรก
ดังนั้นหน้านี้จึงเป็นข้อมูลเพื่อการอ้างอิงก่อนที่จะถูกนำออกเท่านั้น
ความเสถียรของราคาเป็นคุณสมบัติที่สำคัญที่สุดของ stablecoin และเป็นกุญแจสำคัญในการเพิ่มการยอมรับใน AUSD เพื่อให้มั่นใจว่า AUSD สามารถรักษาราคาไว้ที่ $1 USD เราได้มีการใช้เครื่องมีและกลไกต่างๆที่ช่วยให้ arbitrageurs สามารถทำ arbitrage ใน AUSD ถ้าหากว่าราคามีการเคลื่อนไหวออกจากราคา $1 สร้างผลตอบแทนให้พวกเขาทุกๆการ arbitrage ที่สำเร็จ
วิธีที่ Arbitrageurs รักษาราคาของ AUSD ให้อยู่ใน peg
มีสถานการณ์อยู่สองประเภทที่ arbitrageurs สามารถทำ arbitrage เพื่อสร้างผลตอบแทน และเพื่อช่วยรักษาราคาของ AUSD ให้คงอยู่ที่ 1 USD peg:
เราได้อธิบายวิธีการ arbitrage ในแต่ละสถานการณ์ไว้ข้างล่างนี้แล้ว
Scenario 1: ราคาของ AUSD สูงกว่า $1
AUSD Arbitrageur ทำการ flash mints AUSD จาก FlashMintModule
AUSD Arbitrageur ได้รับ AUSD จาก FlashMintModule
AUSD Arbitrageur ทำการแลกเปลี่ยน AUSD เป็น BUSD ผ่าน PancakeSwap's AUSD-BUSD pool
เนื่องจาก 1 AUSD มีค่ามากกว่า 1 BUSD ทำให้ AUSD arbitrageur ได้รับ BUSD มากกว่าปริมาณของ AUSD ที่มีการ mint ออกมา
AUSD Arbitrageur ใช้ Alpaca’s StableSwapModule เพื่อแลกเปลี่ยน BUSD ไปเป็น AUSD ที่อัตรา 1:1
AUSD Arbitrageur ได้รับ AUSD ที่ถูก flash-minted มาจาก FlashMintModule และได้รับส่วนต่างเป็นกำไรจากการทำ arbitrage
Scenario 2: AUSD price goes below $1
AUSD Arbitrageur ทำการ flash swap โดยกู้ AUSD ที่ราคาต่ำกว่าปกติจาก PancakeSwap
AUSD Arbitrageur ได้รับ AUSD จากการทำ flash swap
AUSD Arbitrageur แลกเปลี่ยน AUSD เป็น BUSD ที่อัตรา 1:1 โดยใช้ StableSwapModule
AUSD Arbitrageur ทำการปิด flash swap โดยคืน BUSD ให้ PancakeSwap และได้รับส่วนต่างจากการทำ arbitrage
นัยเบื้องหลังของการใช้ Stable Swap กับ AUSD
เนื้อหาข้างล่างนี้ถูกนำมาจาก Twitter's thread โดย Samsara หัวหน้าฝ่ายการตลาดและกลยุทธของ Alpaca Finance
Stable Swap ของ AUSD มีพื้นฐานมาจาก DAI’s time-tested PSM ของ MakerDAO โดยโมดูลนี้มี 3 คุณสมบัติหลักคือ
1: ช่วยเหลือในด้านการ arbitrage สำหรับ arbitrageurs
การแลกเปลี่ยนเร็วกว่า, ถูกกว่า และมั่นคงมากกว่า เนื่องจากมันเป็นอัตราส่วน 1:1 ที่ไม่มีการได้รับผลกระทบจากราคาที่เปลี่ยนแปลง (price impact) การแลกเปลี่ยนที่ง่ายกว่า ดึงดูดให้มี arbitrageurs มากขึ้น นำไปสู่ราคาที่มั่นคงมากขึ้น
2: มีการพยุงราคาในฝั่งการซื้อ
เมื่อ arbitrageurs เยอะขึ้น และคุณประโยชน์ของ AUSD มีมากขึ้น มันจะมีช่วงที่ความต้องการซื้อ AUSD ขับเคลื่อนราคาให้อยู่ในช่วง $1-1.002 โดยในช่วงเวลานี้ BUSD จะถูกสะสมอยู่ใน BUSD Reserve เพื่อสร้าง hard peg ในการรักษาราคาของ AUSD ให้น้อยกว่ .998 การพยุงราคานี้เป็น 1 ในผลกระทบจากการรักษาราคาให้คงที่โดยไม่ได้มีการทำ hard peg ในฝั่งการซื้อ แต่อย่างไรก็ตาม Stable Swap จะมีผลกระทบมากกว่าในฝั่งการขาย ซึ่งมีความสำคัญมากกว่าฝั่งการซื้ออย่างมาก
3: มีการ Hard peg ในฝั่งการขาย
BUSD จะสามารถ mint ด้วยอัตรา 1:1 กับ AUSD ได้ตลอดเวลา เพื่อเป็นการรับประกันว่า arbitrageurs จะรักษาราคาให้น้อยกว่า $1.002 (มีการเผื่อ .002 สำหรับค่าธรรมเนียม .2%) Hard peg ในฝั่งการขายมีความสำคัญมากกว่าฝั่งการซื้อเพราะว่า AUSD เป็นทรัพย์สินที่ได้มาจากการกู้ เพื่อทำให้เกิดความเข้าใจมากขึ้น เรามีการอธิบายการใช้งาน และกลยุทธหลักๆของ AUSD เอาไว้ข้างล่างนี้ (กรณี A-C)
กรณี A: กู้ AUSD เพื่อ stake: mint AUSD และ stake ใน AUSD-BUSD หรือที่อื่นๆ
ในกรณีนี้ ผู้ใช้งานไม่ได้มีความกังวลมากมายนักเกี่ยวกับราคาของ AUSD เพราะว่า AUSD exposure เป็น neutral เมื่อผู้ใช้งานมีการปิด position พวกเข้าจะคืน AUSD ในจำนวนเท่ากับที่พวกเขาได้กู้ไปโดยไม่สนใจเรื่องราคาของ AUSD ผลกระทบอย่างเดียวจากราคาของ AUSD ที่จะเกิดขึ้นกัผู้กู้ที่มี exposure เป็น neutral คือ Impermanent Loss ใน LP pair เช่น AUSD-BUSD แต่ IL ที่จะเกิดขึ้น จะเกิดขึ้นเป็นจำนวนเล็กน้อยมากจากการเคลื่อนไหวของราคาเพียงไม่กี่เปอร์เซน โดยถ้าหากสมมุติให้ AUSD มีราคาตกไปถึง .89 ผลกระทบที่เกิดขึ้นเนื่องจาก IL เมื่อมีการปิด position จะมีเพียง 0.17% เท่านั้น
กรณี B: การกู้ AUSD แบบเป็นวัฏจักร: mint AUSD หลายๆรอบ เพื่อเพิ่ม leverage ให้แก่ทรัพย์สินที่ใช้ค้ำประกัน
กรณีนี้เกิดขึ้นจากการที่ผู้ใช้มีการค้ำประกันทรัพย์สินเช่น BUSD เพื่อ mint AUSD และขาย AUSD เหล่านั้นไปเป็น BUSD และก็นำ BUSD มาใช้เพื่อ mint AUSD เพิ่ม ทำแบบนี้ไปหลายๆรอบ ในกรณี A หรือการกู้เพื่อ stake สามารถกล่าวได้ว่าเป็น neutral ต่อ AUSD peg ในขณะที่กรณี B คือการกู้ AUSD ซ้ำไปซ้ำมา จะเป็นการ SHORT ใน AUSD และเป็นเหตุผลหักที่การ hard peg ในฝั่งการขายในกรณีที่ AUSD < 1$ จึงเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อการปิด position ที่มีการวนลูปหลายรอบ ผู้กู้ต้องจ่าย AUSD คืน ซึ่งถ้าหากราคาของ AUSD สูงขึ้นหลังจากมีการเปิด position ผู้กู้จะต้องจ่ายมากขึ้นในการซื้อ AUSD เพื่อจ่ายคืน ซึ่งจะทำให้เกิดการสูญเสียของผู้กู้ จึงเป็นเหตุผลว่าทำไม position เช่นนี้จึงให้ short exposure แก่ผู้ถือ position ซึ่งหากพูดถึงกลยุทธการ leverage แล้ว ในทางทฤษฎี กรณี B จะเป็นกลยุทธที่มีความเสี่ยง ดังนั้นการมี hard peg ในฝั่งการขายที่ราคา <$1 เมื่อใช้คู่กับกลไกป้องกันการ liquidation ของ AUSD (ที่คล้ายกับ Alpaca Guard) แล้ว จะทำให้ผู้ใช้สามารถวนลูปกู้ AUSD โดยมีความเสี่ยงในฝั่งการขายน้อยลง
กรณี C: ซื้อ AUSD เพื่อ stake ใน AUSD-BUSD หรือที่อื่นๆ
กลยุทธนี้คล้ายกับกลยุทธในกรณี A แต่สิ่งที่แตกต่างคือผู้ใช้ที่ต้องการ stake AUSD ได้ทำการซื้อ AUSD โดยตรง แทนการ mint เพราะว่ากรณี A ที่มีการกู้เพื่อ stake นั้น ให้ผลตอบแทนที่มากกว่าการซื้อเพื่อ stake (ตราบเท่าที่ความเสี่ยงในการ liquidation ถูกควบคุมอย่างเหมาะสม) การซื้อเพื่อ stake เป็นกลยุทธที่ถูกใช้โดยผู้ใช้ที่มีประสบการณ์น้อยกว่า และอาจจะไม่สะดวกในในการกู้หรือ mint AUSD และการซื้อเพื่อ stake ก็ถูกใช้อย่างแพร่หลายในโลกของ DeFi จึงทำให้ผู้ใช้งานส่วนใหญ่มีความคุ้นชินมากกว่า และมันก็ยังมีบางกรณีที่การซื้อเพื่อ stake สามารถทำได้อย่างเกิดประโยชน์ เนื่องจากกลยุทธ C เป็นกลยุทธเดียวที่ให้ long exposure ใน AUSD และสนใจในด้านการซื้อ (buy side peg) แต่อย่างไรก็ตาม มันก็ยังเป็นกลยุทธที่ไม่ได้ถูกใช้อย่างแพร่หลายอยู่ดี ในช่วงเวลาเริ่มต้นของ stablecoin (ซึ่งเป็นช่วงที่ AUSD เป็นอยู่ ณ ตอนนี้) การซื้อเพื่อ stake ไม่ได้ถูกใช้มากเท่ากลยุทธ 2 อันข้างบน ส่วนใหญ่การซื้อจะเกิดขึ้นจากการ arbitrage แต่เมื่อเวลาผ่านไป และการใช้ประโยชน์จาก stablecoinมีมากขึ้น การซื้อเพื่อ stake จะมีมากขึ้นเช่นเดียวกัน ดังเช่นสิ่งที่เกิดขึ้นกับ DAI ในขณะนี้
ถ้าพูดถึงการควบคุมราคาฝั่งการซื้อ (buy side peg) เราควรจะตระหนักว่าในระบบของ AUSD มีการรับประกัน long-term peg เนื่องจาก การซื้อสุทธิของทุกๆกลยุทธนั้น จะมีค่า >=0 นั่นเป็นเพราะว่าเมื่อ AUSD ถูกขาย มันจะถูกซื้อคืนอยู่ดี เพื่อใช้ในการปิด position การขาย AUSD เกิดได้หลังจากที่ AUSD ถูก mint เท่านั้น
ผู้กู้ที่ stake (กรณี A) ไม่ได้ทำการซื้อหรือขาย
ผู้ที่วนลูปกู้ AUSD มีการทำการขาย แต่ก็ต้องซื้อคืนอยู่ดีในภายหลัง
ผู้ซื้อที่ stake (กรณี C) ก็ต้องซื้อก่อนเสมอ
ดังนั้นแล้ว การซื้อสุทธิของ AUSD จึง >=0 สำหรับทุกๆกรณี ซึ่งจะเป็นการการันตี long term $1 peg
สุดท้ายนี้ กลไกการ peg ในฝั่งการซื้ออีกอย่างหนึ่งคือการควบคุมดอกเบี้ย ถ้าหากว่าราคาของ AUSD ลดลงต่ำมากเกินไป เราจะปรับอัตราดอกเบี้ยให้สูงขึ้น เพื่อให้ผู้วนลูปกู้ AUSD ทำการซื้อ AUSD คืน ซึ่งจะสร้าง buy pressure และทำให้ราคากลับมาอยู่ในจุดที่ถูกต้องอีกครั้ง
ในขณะที่เรากำลังเพิ่มการคุณประโยชน์ของ AUSD ผู้ใช้ที่ทำการซื้อเพื่อ stake(กรณี C) จะมีมากขึ้น ซึ่งจะสร้างความต้องการในการซื้อ เพื่อหักล้างความต้องการในการขายชั่วคราวของผู้วนลูปกู้ (กรณี B) และทำให้ราคากลับมามากกว่า $1 และจะเป็นการสะสม BUSD ไว้ เพื่อสร้างความเสถียรเพิ่มมากขึ้น
โดยสรุปแล้ว การพยุงราคาของ stablecoin จะมั่นคงมากขึ้นเรื่อยๆตามกาลเวลา ในขณะที่คุณประโยชน์และจำนวนอุปทานเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ AUSD นั้นมีความปลอดภัย แต่ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นเท่านั้น เราได้มีการปล่อยองค์ประกอบหลักๆไปเพียง <1/3 ของทั้งหมด ถ้าหากคุณรู้หลักการเหล่านี้อย่างถ่องแท้ คุณสามารถสร้างผลตอบแทน > 20% จาก AUSD ได้
เงินทุนประกัน AUSD Peg
เพื่อแสดงความทุ่มเทที่เรามีให้ต่อการเติบโตของ AUSD เราจะแบ่งสัดส่วนมากถึง 40% ของรายได้จาก Dev Fund เพื่อเป็นเงินประกันว่าราคาของ AUSD จะคงอยู่ที่ ~$1 โดยการซื้อ AUSD ในตลาดต่างๆ ในกรณีที่ราคาเกิดการลดลงไปน้อยกว่า $1
เราได้มีการแชร์การวิเคราะห์รายได้ของ Alpaca’s platform revenue ซึ่งมีค่าสูงระดับหนึ่ง (~$100 ล้านต่อปี) คุณจึงสามารถเชื่อใจได้ว่าเงินทุนนี้สามารถไว้ใจได้ในการรักษาราคาของ AUSD ที่ $1
ด้วยเงินทุนนี้ทำให้การที่ราคาของ AUSD จะตกลงไปน้อยกว่า $1 นั้นเป็นไปได้ยาก และนอกเหนือจากนั้น ทีมของเราจะมีการเตรียมมาตรการต่างๆเพิ่มเติมไว้เสมอในการพยุงราคาของ AUSD
Dev Fund จะถูกโอนไปยัง Peg Insurance Fund ก็ต่อเมื่อราคาของ AUSD ลดลงจนถึงจุดที่ตั้งค่าเอาไว้ เงินทุนนั้นจะถูกนำไปซื้อ AUSD อย่างต่อเนื่อง จนกระทั้ง AUSD มีราคาเท่ากับค่าที่ตั้งเอาไว้
Last updated